Columnist

นักดื่มสงสัยทำไม ‘รีเจนซี่’ราคาพุ่ง

ช่วงปลายปีที่แล้วมีปรากฏการณ์ทางการตลาดแวดวงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่น่าสนใจมากครับโดยเฉพาะนักดื่มที่หลงไหลในกลิ่นและรสชาติของ​ “บรั่นดี” พูดกันตรงๆไปเลยคือ​ “รีเจนซี่” ครับ​

ปรากฏการณ์ที่ว่าคือรีเจนซี่ขาดตลาด​ หาซื้อได้ยากอีกทั้งราคาแพงขึ้นกว่า​ ร้อยละ​ 50​ จากปกติ​ แบนละ​ 240​ บาท​, กลมละ​ 490​ บาท​ ตอนนี้ร้านชำบางแห่งจำหน่ายแบนละ​ 370 บาท​, กลมละ​ 640 บาททั้งๆที่ทางบริษัทผู้ผลิตไม่ได้ประกาศขึ้นราคาแต่อย่างใดนะครับ​

หรืออีกนัยคือ​ มีการฉกฉวยโอกาสจากผู้ค้าขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างไม่เป็นธรรม​ ซึ่งบังคับให้นักดื่มบรั่นดีต้องควักกระเป๋าตังค์เพิ่มอย่างไม่เต็มใจ

ตลาดสุราในปัจจุบันนี้มีทางเลือกให้สายแอลกอฮอล์เลือกค่อนข้างน้อยนะครับ สุราบางยี่ห้อดื่มแล้วตื่นเช้ามาปวดหัวเหมือนการหมักบ่มยังไม่ได้ที่​ อาจจะเป็นเพราะเคยขายดีก็เลยทำให้มีการเร่งผลิตออกสู่ตลาด​

และนั่นทำให้สุราต่อกลม​ ปริมาณ​ 75 มิลลิลิตร​ ราคาตั้งแต่​ 290-400 บาท​ เป็นสินค้าที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง​
ในขณะที่ความนิยมในรีเจนซี่กลับมีมากขึ้น​ ด้วยราคาต่อแบน​ต่ำกว่าสุราปริมาณ​ 75​ มิลลิลิตรทั่วไป​ คือราคา​ 240บาท​

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการดื่มรีเจนซี่ยังทำให้ตอนเช้าตื่นมาไม่ปวดหัว ซึ่งรสชาติ​ “บรั่นดี” ที่แตกต่างจากสุรา​อื่นๆในตลาด​ ยกระดับความนิยมให้กับกลุ่มวัยทำงานอย่างรวดเร็ว​

บางคนจริงจังมากนะครับ​ ถึงขนาดวิเคราะห์กันเป็นเรื่องเป็นราวว่าบรั่นดีที่กำลังดื่มอยู่นั้นทำมาจากองุ่นหรือสับปะรด แม้กูรูจะออกมาเฉลยแล้วว่าบรั่นดีทำมาจากองุ่น

ช่วงที่รีเจนซี่ขาดตลาดนั้น​ บางกระแสกล่าวว่าเป็นเพราะเครื่องผลิตได้รับความเสียหายจนต้องซ่อมไป​ ทำให้กำลังผลิตลดลง​ ประกอบกับความนิยมที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้น​ สินค้าจึงออกสู่ตลาดไม่ทัน

แล้วช่วงที่พีคๆ​ ตอนนั้นคือช่วงสิ้นปีเลยครับ​ ทำให้ร้านค้าเริ่มกักตุนและปรับราคาสูงขึ้น ถ้าจากแบนละ​ 240​ บาท​ เป็น​ 320-370 บาท​ ส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นมาประมาณ​ 80-130บาท​ ต่อแบนนั้นถือว่าสูงมากครับ

บางร้านขาย​ 370บาท​ แค่​ 2​ แบน​ ก็ได้กำไรเหมือน​ 3​แบน​ ซึ่งกลไกทางการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี่น่าทึ่งมากครับ

ร้านค้าต่างๆทั่วประเทศต่างพร้อมใจกันขึ้นราคากันอย่างพร้อมเพรียงเหมือนผ่านการประชุมสหพันธ์มาแล้ว

ราคาแพงบางคนยังพอรับได้ครับ​ แต่แย่กว่านั้นคือมี​”รีเจนซี่ปลอม” ออกมาระบาดซ้ำเติมนักดื่มอีก

เพราะรีเจนซี่ทั้งแบนและกลมไม่มีฝาจุก​ จึงทำให้พ่อค้าหัวใสกรอกบรั่นดีปลอมติดแสตมป์หลอกๆออกมาขาย​
ครับ… ในราคา​ 370​ บาท​ สามารถเรียกว่าวิกฤตรีเจนซี่เลยคือ​ ทั้งขาดตลาด​ ทั้งปลอม​ ทั้งแพง

วิธีการดูว่ารีเจนซี่ปลอมเป็นอย่างไร​ ให้ดูวันเดือนปีที่ผลิตซึ่งติดอยู่หลังฉลาก​ ต้องตรงกับสแตมป์ปิดฝาขวดครับ​ ถ้าวันที่ไม่ตรงกันให้สันนิษฐานว่าปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์

​ แต่ทั้งนี้​ หากใครไม่ติดยี่ห้อรีเจนซี่​ จริงๆในตลาด​ก็ยังมีบรั่นดีอีกยี่ห้อหนึ่งเป็นทางเลือกซึ่งดื่มแล้วเมาเหมือนกันครับ​ ราคาไม่แพง​ และไม่ปลอมด้วย​

ผมไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ​ เพียงแค่รู้สึกว่าเมื่อมันขาดตลาดและโดนโก่งราคา​ แล้วต้องมาลุ้นว่าปลอมหรือเปล่า​ ผมตัดปัญหาดื่มบรั่นดีอีกยี่ห้อหนึ่งเลยครับ​

อย่างไรก็ตามช่วงกลางเดือน​มกราคมที่ผ่านมา​ มีข่าวว่าทางบริษัทผู้ผลิตรีเจนซี่ได้แก้ไขปัญหาซ่อมแซมเครื่องจักร​ รวมทั้งลงมาควบคุมกลไกราคาจากบรรดายี่ปั๊วที่ปั่นจนตลาดวุ่นวาย​ก่อนลูกค้าจะหนีไปดื่มยี่ห้ออื่น

แต่จนถึงปัจจุบัน​นี้​ ราคารีเจนซี่ไม่ลงมาเหลือแบนละ​ 240​ บาท​ หรือ​ กลมละ​ 490​ บาท​ เหมือนเดิมเลยครับ​

ท่ามกลางความสงสัยของนักดื่ม​ว่าทำไมรีเจนซี่ราคาแพงขึ้น ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบนะครับ​ หรือผมอาจไม่ได้ติดตามข่าวสารจากทางบริษัทผู้ผลิต?

 

ที่เขียนถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้หมายความว่าผมสนับสนุนให้มีการดื่มสุรานะครับ

แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่ากลไกราคาในตลาดมันผิดเพี้ยนตรงไหน​ แล้วใครที่กำลังฉกฉวยได้ผลประโยชน์จากการทำให้​ “ดีมานด์” กับ​ “ซัพพลาย” เกิดช่องว่างมหาศาล มีการ กักตุน​-ขายเกินราคา​ หรือไม่?

สำหรับนักดื่มที่มีทุนทรัพย์และบริโภคสุราอีกระดับหนึ่งซึ่งราคากลมตั้งแต่​ 700-2,000​ บาท​ อาจไม่ได้รับผลกระทบกับวิกฤต​”รีเจนซี่” ขาดตลาด​

แต่ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองอย่างนี้​ บางคนอาจไม่สามารถดื่มแบล็คเลเบิ้ลได้ทุกวัน​ ทางเลือกสุดท้ายที่ยังรับได้ก็คือ… รีเจนซี่​ ใช่ไหมครับ?

ส่วนชนชั้นกลาง​ วัยทำงาน​ ที่อยากให้ตับได้รับการผ่อนคลายบ้าง​ ไม่ต้องการตะบี้ตะบันความเมาด้วยสุราไทยทุกคืน​ หรือจิบดื่มเพียงกระษัย​ รีเจนซี่กลายเป็นทางเลือกที่หลายคนหันมาสนใจมากขึ้น

แต่ถ้าบรรยากาศในร้านขายของชำยังอึมครึม​ วัดใจกับพ่อค้าแม่ค้าอย่างนี้ต่อไปนานๆ ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นผลดีกับใครทั้งสิ้นครับ​

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: