บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด
เรื่องใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของข้าพเจ้านั้น มักเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องที่คิดว่าจะทำไม่ได้แต่ก็ทำจนได้ เช่น การผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า เกิดขึ้นจากการที่ข้าพเจ้ารู้จักกับ คุณเจน ศิริวงศ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวงศ์ เจ้าของความคิดทำโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยมีผู้ร่วมทุนจากประเทศไต้หวัน คุณเจนต้องการให้สหพัฒน์เข้าร่วมหุ้นด้วย เพื่อให้เป็นผู้ดำเนินงานขาย เราตกลงเข้าหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์และให้คุณเจนเป็นผู้บริหารงานโรงงาน
ขณะที่ยังไม่ทันวางจำหน่ายก็เกิดปัญหาหนัก เพราะหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีผงชูรส กินแล้วจะเป็นอันตราย ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่ในตลาดขณะนั้นขายไม่ได้ ส่วนเราก็กลับตัวไม่ทัน เพราะเครื่องจักรก็ติดตั้งแล้ว อย่างไรก็ต้องนำสินค้าเข้าสู่ตลาด
การแก้ปัญหาเรื่องข่าว เราต้องอ้างการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาลในวันเปิดโรงงาน เชิญปลัดกระทรวงสาธารณสุขมาเป็นประธาน ใช้ชื่อใหม่ว่า มาม่าซุปไก่ เพื่อจะให้เห็นว่าเราใช้น้ำซุปไม่ได้ใส่ผงชูรส เราไปซื้อไก่จากตลาดเก่ามาต้มน้ำซุปสาธิตให้ประชาชนดู และทำการตลาดโดยนำมาม่าไปต้มให้ประชาชนชิมตามหน่วยขายทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ข้อมูลที่ใช้โฆษณาคือ อร่อยและสะดวก
บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด เปิดตัวเมื่อ พ.ศ. 2516 ด้วยคุณภาพที่ยังไม่สมบูรณ์ สินค้ามีอายุสั้นมาก ลูกค้าซื่อไปไม่ถึงอาทิตย์บะหมี่ก็เหม็นหืน ระหว่างหาทางปรับปรุงคุณภาพ ยอดขายก็ไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ จึงเกิดปัญหาระหว่างผู้ถือหุ้นจากไต้หวันกับกลุ่มของคุณเจน ลงท้ายมีการถอนหุ้นไปทั้งสองฝ่าย ส่งผลให้มีปัญหาอย่างมากตามกันมา ทั้งด้านวัตถุดิบและการเงิน ทำให้ต้องมีการปรับทุนจดทะเบียนและโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลายครั้ง ปรับคุณภาพสินค้ารวมทั้งเปิดตัวบะหมี่รสใหม่ ทั้งหมดใช้เวลาราว 10 ปี บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าจึงประสบความสำเร็จ
ชื่อ “มาม่า” ทำให้ความเป็นกันเองกับกลุ่มผู้บริโภคสูงกว่ายี่ห้ออื่น คล้ายกับเด็ก ๆ เรียกชื่อแม่
บะหมี่มาม่าหมูสับ และบะหมี่มาม่าต้มยำกุ้ง แสดงถึงความเรียบง่ายของชื่อ รสชาติ เหมาะกับวิถีชีวิตคนจีนและคนไทย
มาม่า กลายเป็นสินค้าเรือธงของบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) มาถึงทุกวันนี้
