ดร.เทียม โชควัฒนา (ตอนที่ 26)
โตแล้วแตก
ข้าพเจ้าภูมิใจเสมอที่มีคนหนุ่ม ๆ มาทำงานกับข้าพเจ้า และทุกคนก็มีความสามารถ มีอนาคตที่ดี แต่ต้นไม้เมื่อเติบใหญ่ก็ต้องแยกกระถางเพื่อนำไปปลูกให้เหมาะสมกับพรรณไม้ ดิน น้ำ และอากาศ บรรดาคนหนุ่มที่อยู่กับข้าพเจ้า เริ่มคิดจะไปมีกิจการของตนเอง ข้าพเจ้าเข้าใจความคิดของพวกเขาเป็นอย่างดี เพราะพลังในวัยหนุ่มมีเหลือเฟือ จึงอยากที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้ายินดีที่ให้คนหนุ่มรุ่นแรกของ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด แยกตัวออกไป โดยข้าพเจ้าร่วมถือหุ้นด้วย แบ่งสินค้าที่เขาถนัดให้และแบ่งพนักงานขายให้ตามสายงาน เวลานั้นการค้าของสหพัฒน์มี 4 แผนก
– ข้าพเจ้าเปิดบริษัทเวิลด์ เทรดดิ้ง (World Trading) ร่วมกับคุณดำหริ ดารกานนท์ และคุณปคุณ ตั้งชัยศักดิ์ ทำธุรกิจขายสินค้าประเภทตัดเย็บยเครื่องนุ่งห่ม เช่น ซิป YKK
– เปิดบริษัท สัมพันธมิตร จำกัด ให้คุณสุจินต์ จิตต์ยรรยง และ คุณกำธร พูนศักดิ์อุดมสิน จำหน่ายเครื่องเคลือบ ช้อนส้อม และเตารีด เครื่องใช้ในครัว
– เปิดบริษัท ไทยแคปปิตอล จำกัด ขายเครื่องเหล็ก มีคุณสุรินทร์ ดำรงวัฒนโภคิณ เป็นผู้รับผิดชอบ
สหพัฒนพิบูล คงไว้แต่สินค้าเบ็ดเตล็ด ให้คุณโยธิน แซ่ตั้ง เป็นหลงจู๊
ข้าพเจ้าและคุณดำหริ ดารกานนท์ได้ร่วมลงทุนกับญี่ปุ่น ไทย 51 เปอร์เซ็นต์ ญี่ปุ่น 49 เปอร์เซ็นต์ เปิดบริษัท รวมอุตสาหกรรม จำกัด ที่พระโขนงในที่ดินของแม่ยายของข้าพเจ้า ทำธุรกิจโรงงานผลิตซิป YKK ข้าพเจ้าเป็นประธานบริษัท คุณดำหริ ดารกานนท์ เป็นกรรมการผู้จัดการ ต่อมา บริษัท รวมอุตสาหกรรม จำกัด ได้ขยายใหญ่ขึ้นเป็น บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) มีผู้ที่มีความรู้สูง คือคุณอานันท์ ปันยารชุน คุณอำนวน วีรวรรณ มาเป็นรองประธาน ข้าพเจ้าจึงขอเป็นที่ปรึกษา และให้คุณอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานบริษัท และได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ เป็น 10 บริษัทแรกของประเทศไทย
ในช่วงนั้น ลูกชายของข้าพเจ้ากลับจากการศึกษา ได้เข้ามาทำงานกับข้าพเจ้า เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ของสหพัฒน์ มีบุณย์เอก ที่ข้าพเจ้ามองให้ดูแลบริษัทที่ได้ไปร่วมลงทุนกับคนหนุ่ม เพราะอายุไล่เลี่ยกัน บุญปกรณ์ จบจากอังกฤษมาช่วยข้าพเจ้าดูแลสหพัฒน์ และการโฆษณา ส่วนบุณยสิทธิ์ อยู่ที่ญี่ปุ่นสั่งสินค้า และเมื่อกลับมาประเทศไทย บุณยสิทธิ์ได้เป็นผู้ก่อตั้งอุตสาหกรรมการผลิตของเครือสหพัฒน์
ในช่วงนี้ ข้าพเจ้ามีความสนใจในธุรกิจโฆษณามาก เพราะเวลาโฆษณาแล้วการค้าจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าจึงใช้เวลาในการทำวิจัยการตลาดสินค้า และโฆณาจนรู้จักดาราและนักร้องดัง ๆ จำนวนมากหลายคน บางครั้งข้าพเจ้าเขียนคำโฆณาสินค้าเอง และจะปรึกษากับศิลปินที่มาช่วยทำการโฆษณา โดยการแต่งเพลงโฆษณาสินค้า จนเป็นที่เลื่องลือในยุคนั้น
ข้าพเจ้าจะใช้โฆษณาทางวิทยุ ทางหนังสือพิมพ์ หนังกลางแปลง การประกวดร้องเพลง การ่วมรายการประกวดนางงามจังหวัด นางสาวไทย พ.ศ. 2498 และสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ในปีพ.ศ. 2501 ข้าพเจ้าจึงให้ความสนใจกับการโฆษณาทางโทรทัศน์อย่างมาก โดยจัดรายการชิงโชคต่าง ๆ เช่น รายการกัลปพฤกษ์ ฯลฯ และรู้จักนักจัดรายการโทรทัศน์เกือบทุกคน
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ข้าพเจ้าสนุกมาก ทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่า ศิลปะมีคุณค่าสำหรับการค้า และศาสตร์ทุกอย่างมีความสำคัญอยู่ในตัว