ช้อปดีมีคืนอุ้มค้าปลีก!’เดอะมอลล์กรุ๊ป’ จัด 2 บิ๊กแคมเปญส่งท้ายปี

เดอะมอลล์ กรุ๊ป ทุ่มงบกว่า 250 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปี เปิดตัว 2 แคมเปญใหญ่สร้างความสุขรับเทศกาลปีใหม่ “HAPPIER TOGETHER 2021” และ “THE MALL JOY OF GIVING HAPPY FACTORY” ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. 63 – 6 ม.ค. 64 ตอกย้ำเป็น Destination แห่งความสุข ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จัดเต็มทั้งโปรโมชั่น และหลากหลายกิจกรรมความบันเทิง มั่นใจพิชิตยอดขายปี 2020 ที่ 50,000 ล้านบาท
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น ทั้งของโลกและภายในประเทศไทย โดยภายในประเทศได้แรงกระตุ้นจากมาตรการของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง อาทิ เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง โดยเฉพาะ “ช้อปดีมีคืน” มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่เกิน 30,000 บาท ที่ช่วยหนุนธุรกิจรีเทลให้กลับมาคึกคักได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ทั้งนี้จากข้อมูล สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มองว่า การดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้จ่าย ภายในประเทศกลับมาฟื้นตัวตามลำดับ พร้อมคาดการณ์ ตัวเลข GDP ปี 2563 ดีขึ้นอยู่ที่ -6% จากเดิมคาดการณ์ -7.8%
สำหรับปี 2564 ที่กำลังจะมาถึง คาดการณ์การ GDP อยู่ที่ 3.5% – 4.5% ปัจจัยบวกจากความสำเร็จในการป้องกันและควบคุมการระบาดของไทย พร้อมทั้งแรงกระตุ้นจากมาตรการของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการผ่อนปรนการเดินทางเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม อาทิ กองถ่ายภาพยนตร์, ผู้มาเข้าร่วมงานแสดงสินค้า, กลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง และ กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบพิเศษ (Special Tourist Visa (STV)) (ข้อมูลสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ณ 16 พ.ย. 2563)
เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี พร้อมคืนความสุขให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 250 ล้านบาท จัด 2 แคมเปญใหญ่ “HAPPIER TOGETHER 2021” จัดที่ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และ“THE MALL JOY OF GIVING HAPPY FACTORY” จัดที่ ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ทุกสาขา โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 63 – 6 ม.ค. 64 อัดโปรโมชั่นแบบจัดเต็มทั้งส่วนลด, ของรางวัลพิเศษรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และกิจกรรมอีกมากมาย
และในปีนี้ยังจัดเตรียมของขวัญชิ้นพิเศษรถยนต์ TOYOTA MAJESTY มูลค่า 1,914,000 บาท จำนวน 1 คัน มอบให้ลูกค้าที่ช้อปภายใน ห้างฯและศูนย์ฯครบทุก 1,000 บาท ร่วมลุ้นรับของขวัญพิเศษชิ้นนี้ รวมถึงการสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ในการ ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างสีสันและดึงดูดลูกค้าให้ได้เข้ามาใช้บริการ
เปิด 7 กลยุทธ์เดอะมอลล์ กรุ๊ป สู้ศึกค้าปลีก ปี 2564…
ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในช่วงไตรมาสที่ 4 ไปจนถึงปี 2564 เน้นการสร้างห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในเครือ ให้เป็นสถานที่ ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างครบครัน ด้วยหลากหลายกลยุทธ์ เพื่อส่งเสริมการทำการตลาดให้มีความแข็งแกร่งและเข้มข้นขึ้นด้วย 7 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1.Customer Experience สร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าด้วยหลากหลายกิจกรรม
2.Digitization : Gamification นำเทคโนโลยี และดิจิทัลในการทำการตลาดแบบครบวงจร ทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ เพื่อเข้าถึงความต้องการของฐานลูกค้าหลักของเรา คือลูกค้า M Card ซึ่งมีกว่า 4.2 ล้านราย และลูกค้า SCB M VISA ที่มีกว่า 8 แสนคน ได้อย่างใกล้ชิด
3.Omni-Channel : O2O Omni Channel Retailers นำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น มาเป็นตัวช่วยในการวาง แพลทฟอร์มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้มากที่สุด ครบทุกช่องทางที่สุด ทั้งทางออฟไลน์ ออนไลน์ เพื่อความ พึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และก่อให้เกิดประสบการณ์แห่งการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Shopping Experience)
4.Collaboration การผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าเหมือนกัน ในการทำแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งขยายฐานกลุ่มลูกค้ามากขึ้น การร่วมกับพันธมิตรแบรนด์สินค้า ร้านค้าทั้งในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า พันธมิตรทางสถาบันการเงินเพื่อมอบข้อเสนอพิเศษที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า
5.Value Equation เน้นการมอบความคุ้มค่าในเรื่องสิทธิประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า และ พาร์ทเนอร์
6.Food / SME Marketing ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Food Destination และการจัด Food Event ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังสนับสนุนส่งเสริมกลุ่ม SME ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เปิดพื้นที่ให้กลุ่ม SME ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น
7.CSR / Eco / Community เดอะมอลล์ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจเคียงคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมมาโดยตลอด และหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมที่สำคัญคือ โครงการ “M Heart สายโลหิต สายใจ” รณรงค์การรับบริจาคโลหิตและเปิดบริการห้องรับบริจาคโลหิตถาวร (Fixed Station) 365 วัน ในห้างสรรพสินค้าเป็นแห่งแรกในประเทศ ถือเป็นหน่วยงานที่บริจาคโลหิตมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย
นอกจากนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็นห้างสรรพสินค้าสีเขียว Green Department Store แห่งแรกของประเทศไทย นำร่องประกาศเจตนารมณ์เป็นห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตปลอดถุงพลาสติกแห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้โครงการ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป โก กรีน” รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชน สนับสนุนชุมชนสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนในชุมชนแบบยั่งยืน
ทั้งนี้ คาดว่าการจัดแคมเปญและกิจกรรมต่างๆเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปีและช่วยเพิ่ม Traffic ในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ 20% จากช่วงเวลาปกติ และมั่นใจว่าจะพิชิตยอดขายสิ้นปี 2020 ได้ที่ 50,000 ล้านบาท