ยืดเยื้อมานานสำหรับการฟ้องร้องคดีดังอย่าง ‘จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน’ (J&J) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่จากสหรัฐฯ ที่ถูกฟ้องร้องว่าผลิตภัณฑ์แป้งเด็กก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่
ล่าสุด บีบีซีรายงานว่า จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ได้ประกาศยุติการขายแป้งเด็กในสหรัฐฯ และแคนาดาซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 0.5% หลังถูกฟ้องร้องและจ่ายค่าชดเชยกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในคดีที่มีผู้ร้องเรียนว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีสารก่อมะเร็ง จนส่งผลให้ยอดขายแป้งจอห์นสันในสหรัฐฯ ลดลงเนื่องจากผู้ปกครองจำนวนมากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยังยืนยันที่จะจำหน่ายแป้งสำหรับเด็กในภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป พร้อมหันมาขายผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการสูงในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 แทน พร้อมยืนยันในความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ของบริษัท และได้รับการยืนยันจากผลการทดสอบของทีมนักวิทยาศาสตร์จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ที่ว่าไม่พบแร่ใยหิน (asbestos) ในแป้งเด็กแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จอห์นสันแอนด์จอห์นสันถูกผู้บริโภคฟ้องร้องกว่า 16,000 คดีว่า ผลิตภัณฑ์ผสมทัลคัมซึ่งเป็นแป้งผงที่ได้จากการบดหินทาลค์ รวมถึงแป้งเด็กผสมทัลคัมเพื่อดูดซับความชื้นและลดการเสียดสี ทำให้ผู้ใช้เป็นมะเร็ง เพราะปนเปื้อนแร่ใยหินที่เป็นสารก่อมะเร็ง
ขณะที่จอห์นสันยืนยันว่า แป้งเด็กผสมทัลคัมปลอดภัยเพราะได้ศึกษาวิจัยมาหลายทศวรรษ และอ้างเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนว่าผลการทดสอบไม่พบแร่ใยหิน หลังจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐหรือเอฟดีเอ (FDA) สั่งให้เรียกคืนแป้งเด็กบางส่วนเมื่อเดือนตุลาคมเนื่องจากพบแร่ใยหิน
ล่าสุด จอห์นสันฯ ได้ยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งศาลเมื่อปี 2018 ที่ให้ทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จ่ายเงินชดเชย 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับคู่กรณีจำนวน 22 คน หลังโจทก์ฟ้องร้องว่าแป้งเด็กของบริษัทก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่
