ก่อนอื่นเลยต้องพูดถึงค่า GP(Gross Profit)ซึ่งถ้าแปลแบบตรงตัวก็ หมายความว่า “กำไรเบื้องต้น” แต่ถ้าอธิบายอีกแบบก็จะหมายถึง ค่าใช้จ่ายที่ทางร้านต้องเสี ยให้กับบริการส่งอาหาร
บางคนให้นิยามว่าเป็น ค่าคอมมิชชั่นที่ร้านอาหารต้ องจ่ายให้กับแอพสั่งอาหาร และนับเป็นค่าดำเนินการที่ ทางแพลตฟอร์มเรียกเก็บ ซึ่งปัจจุบันที่เราคุ้นเคยกั นเช่น Food Panda , Grab , Lineman ฯลฯ โดยแต่ละที่ก็จะคิดค่าบริ การแตกต่างกันครับ
ไม่ว่า ค่า GP จะถูกนิยามว่าอะไรก็ตาม มันทำให้คนที่ Work from Home หรือกักตัวในช่วงโควิดระบาดต้ องจ่ายราคาอาหารที่แพงขึ้นเมื่ อเทียบกับการไปรับประทานอาหารที่ ร้าน
จริงๆการอยู่บ้านควรจะมีค่าใช้ จ่ายน้อยกว่าไปที่ร้านใช่ไหมครั บ อีกทั้งสถานการณ์แพร่ ระบาดของไวรัสมันบังคับให้เราต้ อง Stay Home ป้องกันตัวเอง ดังนั้น สำหรับบางคนการเรียกใช้แอพส่ งอาหารก็ไม่ได้หมายความว่า “ขี้เกียจ”
ค่า GP บางครั้งก็ทำให้การสั่งอาหารผ่ านแอพเหล่านี้เกิดดราม่าตามมา เนื่องจากปริมาณอาหารที่เราสั่ งมันรู้สึกว่าทำไมถึงได้น้อยกว่ าที่ควรจะเป็น หรือ สั่งไปเป็นชั่วโมงแล้วทำไมส่งช้ าไม่ทันใจ บางทีสั่งไปแล้วมีปัญหาในการส่ งจนต้องขอให้ยกเลิก เป็นต้น
นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรั สโควิด-19 บริการเดลิเวอรี่ก็เติ บโตสวนกระแสเศรษฐกิจ มีคนหันไปประกอบอาชีพเป็ นไรเดอร์กันเพียบ ซึ่งในแง่ของสร้างงานให้กับผู้ ที่ได้รับผลกระทบจากวิ กฤตเศรษฐกิจ ผมว่าอาชีพนี้สามารถประคองตั วให้พอมีรายได้เข้ากระเป๋าเลี้ ยงครอบครัวได้บ้างไม่มากก็น้อย
ในขณะที่ธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร ผู้ประกอบการขนาดกลางถึงเล็ก ก็สามารถขายของได้เช่นกัน เพราะเมื่อประกาศห้ามไม่ให้นั่ งทานที่ร้าน ดังนั้นบริการเดลิเวอรี่จึ งตอบโจทย์ไปโดยปริยาย
แต่อย่างที่เกริ่นมาแล้วในข้ างต้นนั่นละครับ ลูกค้ากับทางร้านจึงต้องแบกรับ “ค่าใช้จ่าย” เพิ่มมากขึ้นอีกนิดหน่อยเป็นค่ าขนส่ง
โดยเฉพาะต้นทางอย่างร้านอาหารที่ ต้องบวกเพิ่มไปในราคาสินค้า หรือจะพูดให้ถูกต้องคือจ่ายค่ าขนส่งกับภาษีมูลค่าเพิ่มให้ ไปอยู่ในเมนูราคาอาหาร
หากร้านอาหารเป็นที่รู้จักกั นมากๆ ลูกค้าเยอะ ค่า GP นี้บางร้านก็อาจจะไม่สูงมากนัก แต่โดยส่วนใหญ่ร้านอาหารทั่ วไปจะต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กั บแพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์อยู่ ที่ประมาณ 30 – 35%
ซึ่งตรงนี้แต่ละร้านจะมีวิธีจั ดการค่าคอมมิชชั่นที่ต่างกันครั บ บางร้านก็ยอมที่จะจ่ายค่า GP ไว้เองเพื่อรักษาลูกค้าเอาไว้ คิดเสียว่าถ้าภายใน 1 วัน มีลูกค้าสั่งเป็นจำนวนมาก ก็พอจะซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายตรงนี้ ได้ ในขณะที่บางร้านก็จะบวกไว้ จากราคาอาหารและเครื่องดื่มหน้ าร้านแบบที่เราๆท่านๆ พบเห็นกันได้ทั่วไป
อยู่ที่ว่าแต่ละร้านนั้นมีต้ นทุนและรายจ่ายที่ต้องแบกรั บมากน้อยแค่ไหนแตกต่างกันครับ
ยกตัวอย่างการสั่งอาหารให้มาส่ งราคา 100 บาท แยกเป็นค่า GP 30 บาท กับค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 2.1 บาท คิดเป็นตัวเลขกลมๆคือ ทางร้านค้า ร้านอาหารต้องจ่ายให้เดลิเวอรี่ 32 บาท ที่เหลือจริงๆ 68 บาทคือค่าอาหาร
ราคานี้หากนั่งทานที่ร้ านตามปกติเราอาจจะจ่ายเพียงแค่ 60 บาท เป็นต้น
ถามว่าปริมาณอาหารระหว่างราคา 60 บาท กับ 100 บาท ราคาไหนควรจะได้เยอะกว่ากัน ?
เมื่อเข้าใจเรื่อง ค่า GP กันแล้ว ก็มาถึงประเด็นที่ผมอยากจะชวนผู้ อ่านแลกเปลี่ยนความคิดนิดหน่อย เพราะผมนั่งคิดนอนคิดแล้วก็รู้ สึกสงสัยว่าอาจจะมีอะไรที่ผมเข้ าใจผิดไปหรือเปล่า
เนื่องจากล่าสุด คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิ ชย์ ได้ผุดไอเดียโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” ล็อตที่ 11 (Food Delivery) โดยครั้งนี้เป็นการเน้นในกลุ่ มอาหารเดลิเวอรี่
ท่านรัฐมนตรีอู๊ดด้า บอกว่าได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่ วมประชุมกันให้ความช่วยเหลือร้ านอาหาร ร่วมกับแพลตฟอร์มทั้งหมด 5 แพลตฟอร์ม ที่ให้บริการ Food Delivery และตัวแทนร้านอาหารทั่วประเทศ ซึ่งก็มาจากเหล่ าบรรดาสมาคมการค้าธุรกิจร้ านอาหาร สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด สมาคมร้านอาหารและบันเทิงเชี ยงใหม่ ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร ฯลฯ
ประเด็นที่ประชุมกันนั้นก็คือ ขอให้สมาคมต่างๆนี้ช่วยกลุ่มผู้ ประกอบการร้านอาหารที่ ขายอาหารผ่านแพลตฟอร์ม และกลุ่มผู้บริโภคซึ่งซื้ ออาหารผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ
โดยผู้ประกอบการร้านอาหารจะมี การลดค่า GP ที่แพลตฟอร์มคิดกับร้ านอาหารจากเฉลี่ย 35% -25% ลงมาเหลือ 25% ซึ่งมีแพลตฟอร์มที่จะเข้าร่ วมโครงการทั้งหมด 5 เจ้าคือ Robinhood ,foodpanda ,Grab ,Gojek และ Lineman
ธุรกิจเดลิเวอรี่จะลดค่า GP เหลือ 25% ในภาพรวม ยกเว้น Robinhood ไม่คิดค่า GP ส่วน foodpanda จะไม่คิดค่า GP สำหรับร้านค้าที่เพิ่งเปิดใหม่
ส่วนผู้บริโภคมีประเด็นที่สำคั ญคือ ลดราคาอาหารที่ขายผ่านแพลตฟอร์ มทั้ง 5 แพลตฟอร์มสูงสุด 60% และจะลดค่าขนส่ง 4 แพลตฟอร์ม ใน 3-5 กิโลเมตรแรก ลดสูงสุดจาก 40 บาทเหลือ 0 บาท ประกอบด้วย 1.Robinhood 2.foodpanda 3.Grab และ 4.Gojek ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2564 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล สำหรับค่า GP
โดยค่าอาหารจะลดทั่วทั้ งประเทศนะครับ
นี่เป็นเนื้อข่าวที่ออกมา ซึ่งผมอ่านแล้วก็รู้สึกเหมื อนกระทรวงพาณิชย์กำลังทำตัวเป็ นคนกลางเข้าไปแทรกแซงค่า GP ในการส่งอาหาร
ค่า GP เหล่านี้ แม้ว่าทางร้านอาหารจะเป็นผู้จ่ ายให้ทางเดลิเวอรี่ แต่ในอีกมุมหนึ่งคือการนำเงิ นจากค่า GP มาเป็นรายได้ให้กับไรเดอร์ที่ขี่ จักรยานยนต์ส่งอาหาร
ตรงนี้ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ ?
เพราะถ้าถูกต้องก็หมายความว่า กระทรวงพาณิชย์เข้าไปลดค่า GP จนส่งผลกระทบต่อรายได้ ของไรเดอร์ ถึงแม้ว่าไม่ได้สั่งให้ลดจาก 35 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่การปรับลดก็คือการปรับลด
ถามว่าร้านค้าโอเคหรือเปล่า ก็คงจะโอเคละครับ
ส่วนไรเดอร์ก็คงมีคำถามว่าจั กรยานยนต์พวกเขาใช้น้ำมันเติ มเพื่อให้วิ่งไปทำงาน รายได้เขาจะลดลงหรือเปล่า
ส่วนชาวบ้านอย่างเราๆก็ได้แต่อึ้ งว่า การส่งอาหารในระยะทาง 3-5 กิโลเมตรที่่ผ่านมาถูกคิดค่าบริ การในราคา 40 บาท ถ้าเทียบกับวินมอเตอร์ไซค์หน้ าปากซอยดีไม่ดีจะแพงกว่านะครับ
นอกจากนี้แล้ว ผู้ใช้บริการเดลิเวอรี่ผ่านแอพ อาจมีคำถามว่าเมื่อฟรีค่าส่ งในระยะ 3-5 กิโลเมตร ตลอดเดือนมิถุนายน ราคาอาหารจะลดลงด้วยหรือไม่ ?
ต้องไม่ลืมนะครับว่าอุ ตสาหกรรมเดลิเวอรี่ของแพลตฟอร์ มเหล่านี้ อยู่ได้ด้วยการนำค่า GP มาตอบแทนการทำงานของไรเดอร์ ซึ่งค่า GP นี้ทางร้านค้าเป็นผู้จ่าย เมื่อกระทรวงพาณิชย์ขอความร่ วมมือให้เขาลดเปอร์เซ็นต์ลง และในระยะทางใกล้ๆก็ส่งฟรีด้ วยนั้น
ราคาอาหารต้องลดลงใช่หรือไม่ครั บ?
ทั้งร้านค้าและไรเดอร์ มีรายได้จาก “ชาวบ้าน” ที่เป็นลูกค้า ถ้าในเศรษฐกิจอันฝืดเคืองลูกค้ ายังถูกขูดรีด หรือยังคงได้รั บผลกระทบจากการระบาดของไวรั สโควิดจนในระยะยาวไม่สามารถมี กำลังซื้อขึ้นมาวันใดวันหนึ่ง
ทั้งร้านค้าและไรเดอร์ ก็คงจะมีรายได้จากคนรวย หรือไม่ก็คงวิ่งส่งอาหารจากร้ านค้าไปทำเนียบฯกับรัฐสภาเท่านั้ นละครับ
วงจรอาชีพไรเดอร์ปัจจุบันได้รั บความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งอย่าลืมว่าในอดีตที่ผ่ านมาสังคมไทยก็มีหลายอาชีพที่ เคยได้รับความนิยม เช่น พนักงานโอเปอร์เรเตอร์ส่งข้ อความเข้าไปยังเพจเจอร์ ร้านถ่ายรูป ร้านวีดีโอ อะไรประมาณนี้
ความยั่งยืนถาวรในวงจรธุรกิจซึ่ งเกิดมาจากวิกฤตโรคระบาดนั้น ผมไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไรครับว่ าในอีก 5-10 ปีต่อจากนี้หากถึงจุดที่ปลอดภั ยแล้วไรเดอร์จะต้องปรับตัวให้ เป็นเหมือนบุรุษไปรษณีย์ในปัจจุ บันหรือไม่
คือแม้ว่าจะไม่ได้สูญหาย แต่ก็ไม่ได้สำคัญเหมือนในอดีต
เพราะฉะนั้นในเวลานี้ที่ร้านค้ า-เดลิเวอรี่-ผู้ใช้บริการ ต่างก็อยู่ในห่วงโซ่พึ่งพาซึ่ งกันและกัน โครงการของรัฐมนตรีอู๊ดด้า ไปแทรกแซงค่า GP มาถูกทางหรือเปล่าครับ
ค่า GP ควรจะถูกกำหนดให้มีมาตรฐานเดี ยวกันทั้งหมดหรือไม่
นั่นยังทำให้มีคำถามต่อมาว่า รายได้เบี้ยขยันของไรเดอร์ ควรจะได้จากส่วนแบ่งจากบริษั ทหรือจากร้านค้า
กระทรวงพาณิชย์ควรมีมาตรการที่ เป็นรูปธรรมแบบยั่งยืนมากกว่ าจะมาเป็นมาตรการเยียวยามี ระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งผมพยายามคิดอยู่ตั้งนานว่ าประโยชน์อยู่ตรงไหน …คิดไม่ออกครับ
คำถามเหล่านี้ไม่ได้ตั้งขึ้ นมาเพราะไม่เห้นด้วยกั บโครงการนะครับ แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อถามหา “มาตรฐาน” ที่เหมาะสมกับ “วงจรธุรกิจ”
บทสรุปคือให้ทุกฝ่ายได้ วิน-วิน และเป็นธรรมครับ
Post Views:
1,184
Like this: Like Loading...
Related