ในรอบปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ปัญหาเงินบาทแข็งค่า ส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจ และยังคงมีผลต่อการรับคำสั่งซื้อขณะนี้เพื่อส่งมอบสินค้าในช่วงต้นปี 2563 ที่บางส่วนได้ข้อสรุปแล้ว แต่บางส่วนยังคงเจรจาอยู่ และยังต้องนำผลของเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้มาพิจารณาประกอบด้วย
ล่าสุด กระเทือนถึงภาคยานยนต์ในเมืองไทย เมื่อสำนักข่าว Nikkei รายงานว่า บริษัทมาสด้า มอเตอร์ (Mazda Motor) อีกหนึ่งยานยนต์ระดับโลกกำลังเตรียมพิจารณาย้ายฐานการประกอบรถยนต์บางรุ่นจากประเทศไทยกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ Nikkei บอกถึงสาเหตุว่า เป็นเพราะบริษัทต้องแบกรับต้นทุนจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเงินบาทเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าต่อเงินเหรียญสหรัฐมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยในปีนี้แข็งค่าขึ้นมาถึง 8% รวมถึงตลาดรถยนต์ในประเทศไทยซบเซาลง ทำให้ผลกำไรของบริษัทได้รับผลกระทบ ซึ่งไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตหลักของมาสด้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องจักรพลังขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย ทำให้สินค้าไทยมีราคาแพงขึ้นในตลาดโลก และทำให้ความต้องการสินค้าไทย หรือสินค้าที่ผลิตจากไทยลดลง โดยล่าสุดสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเปิดเผยตัวเลขการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปไปต่างประเทศลดลงถึง 19.25% เมื่อเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยดขายรถยนต์ในประเทศไทยก็ลดลง 16.2%
ส่วนรุ่นที่ Mazda พิจารณาย้ายฐานการผลิตจากไทยกลับไปญี่ปุ่นคือ Mazda รุ่น CX-3 sport และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือรุ่นที่ผลิตส่งออกไปขายยังออสเตรเลีย โดย Mazda จะย้ายฐานการผลิตไปผลิตที่เมืองโฮฟุ (Hofu) ในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก