คิงเพาเวอร์พลิกโฉมสาขารางน้ำสู่ TOP 5 ของโลก
เอ่ยชื่อ คิงเพาวเอร์ คงไม่มีใครไม่รู้จักอาณาจักรปลอดภาษีแห่งนี้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นบริษัทด้านธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรของไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2532 ใช้ชื่อเดิมว่า บริษัท ดาวน์ทาวน์ ดี.เอฟ.เอส (ไทยแลนด์)จำกัด ได้ร่วมทุนกับ ททท. เปิดดำเนินกิจการร้านค้าปลอดอากรในเมืองเป็นรายแรกในประเทศไทย ณ อาคารมหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต
ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 – 2549 ได้รับสัมปทานจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเข้าบริหารร้านค้าปลอดภาษี ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด และในปี พ.ศ. 2549 ได้เข้ามาดำเนินการสินค้าปลอดอากร ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปัจจุบันมีประธานกรรมการบริหาร คือ วิชัย ศรีวัฒนประภา โดยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 บริษัทได้รับพระราชทานตราตั้งห้าง โดยมีสัญลักษณ์ครุฑตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 วิชัยพร้อมด้วยผู้ร่วมทุนในนามกิจการร่วมค้าเอเชียนฟุตบอลอินเวสต์เมนท์ ได้ซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี พร้อมเปลี่ยนชื่อสนามจาก วอล์กเกอร์ส สเตเดี้ยม เป็น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม และในปี 2014 ได้บริหารทีมสโมสรเลสเตอร์ซิตี จนคว้าแชมป์ เดอะแชมเปี้ยนชิพ และเข้าไปเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในฤดูกาล 2014-2015 ในฤดูกาล 2015–16 เลสเตอร์ซิตีสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ต่อมาในวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ทางกลุ่มคิงเพาเวอร์ได้รับอนุมัติให้มีการซื้อขายสโมสร เอาด์-เฮเฟอร์เลเลอเฟิน ซึ่งเป็นสโมสรในระดับดิวิชั่น 2 ของประเทศเบลเยี่ยม และได้มีการดึงตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ให้มาร่วมกับทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะของลีกเบลเยียมช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.2561
หลังเปิดศักราชใหม่ได้ไม่นาน คิงเพาเวอร์ต้อนรับปีจอด้วยการเปิดตัวครั้งยิ่งใหม่ เนรมิตอาณาจักรคิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำให้เป็นมากกว่าศูนย์รวมสินค้าปลอดภาษี แต่จะสร้างปรากฏการณ์ภายใต้ชื่อ ‘EXPLORE ENDLESSLY ” ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์หลากรูปแบบที่รวบรวมไว้ที่นี่ที่เดียวซึ่ง คิง เพาเวอร์ ทุ่มงบลงทุนถึง 2,500 ล้านบาท ในเนื้อที่ 15 ไร่ เพื่อพลิกโฉมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปีที่ผ่านมาปรับแผนจะขึ้นเป็นร้านค้าปลอดภาษีอันดับ 5 ของโลก
ในการพลิกโฉมครั้งนี้เป็นกลยุทธ์แรกที่จะก้าวขึ้นสู่ Top 5 เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการในคิง เพาเวอร์ รางน้ำและได้ความประทับใจในทุกมิติ โดยการรวมสินค้าตั้งแต่ระดับเวิลด์คลาสไปสู่สินค้าโอท็อปของประเทศไทย รวมถึงร้านอาหารชื่อดังสตรีทฟู้ด และความบันเทิงให้รับชมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดปีเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ครบถ้วน See-Feel-Tastes เรียกได้ว่าที่เดียวจบครบทุกความต้องการ นอกเหนือจากนั้นทาง คิง เพาเวอร์ตั้งใจเจาะกลุ่มทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบโดยการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับอินเตอร์อย่างฟ่าง ปิงปิง ที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางและสัญลักษณ์ของประสบการณ์สุดพิเศษจาก คิง เพาเวอร์
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บอกว่า เดิม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เป็นดิวตี้ฟรีคอมเพล็กซ์ที่อยู่ใจกลางเมืองมาอย่างยาวนาน รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไป ความต้องการของลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ คิง เพาเวอร์ ไม่สามารถที่จะหยุดนิ่งในการพัฒนา จึงได้ปรับโฉมใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมทั้งได้นำสินค้าใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัยมากกว่าเดิมเข้ามาจำหน่าย รวมทั้งโครงสร้างอาคารก็จะมีความโดดเด่นสวยสะดุดตา มีพื้นที่ใช้สอยเอนกประสงค์มากขึ้น รวมทั้งโซนน้ำพุที่สูงตระการตาถึง 6 เมตร ให้กับนักเดินทางที่มาเยือน
โดยกลยุทธ์ที่จะก้าวสู่ top 5 ของโลก คือ การขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ หรือการจับมือร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้มีความหลากหลายของรายได้ในธุรกิจใหม่ ๆ โดยจะเน้นหา Partnership ในโซนเอเชียเป็นหลักก่อน ในขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจและทรัพย์สินที่มีอยู่ภายในประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เช่น การสร้างเลานจ์ใหม่ที่ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ พร้อมได้เตรียมจัดอีเว้นต์ที่มีหลากหลายเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าและยังมีการศึกษาตลาดเพื่อพัฒนากลยุทธ์ต่างๆ ในอนาคต
ในการปรับโฉมครั้งนี้ของ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ให้ขึ้นแท่นเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ มีการแบ่งโซนใหม่ออกเป็น 3 โซนให้ได้เลือกช้อปปิ้ง ประกอบไปด้วยโดยบริเวณชั้น 1 เป็นแหล่งรวมสินค้าระดับเวิร์ดคลาส แบรนด์เนมชั้นนำระดับโลก ส่วนชั้น 2 เป็นโซนสำหรับ World Watchs และ World beauty Items คับคั่งไปด้วยนาฬิกาแบรนด์ระดับโลกและเครื่องสำอางสกินแคร์และน้ำหอมกว่า 100 แบรนด์และสุดท้ายคือชั้น 3 เอาใจนักท่องเที่ยวโดยการจัดโซน Dinning ที่รวบรวมร้านอาหารชั้นนำระดับอินเตอร์และศูนย์อาหาร “THAI TASTE HUB” ที่รวบรวมร้านดังสตรีทฟู้ดมาไว้ที่เดียว
คิงเพาวเอร์ สาขารางน้ำ จะกลายเป็นอีกหนึ่งเดสติเนชั่นตามเจตนารมย์ได้หรือไม่ ได้รู้กัน