“คารายามะ” ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น ดับเครื่องชน”เคเอฟซี”

ต้องยอมรับว่า ในกลุ่มธุรกิจอาหารบริการด่วนในเมืองไทย หรือตลาดฟาสต์ฟูด ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านบาท เซกเม้นท์ใหญ่สุดคือไก่ทอด สัดส่วน 40% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.74 หมื่นล้านบาท และยังมีการเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 10% ต่อปี ขณะที่เซกเม้นท์อื่นๆ
เติบโตน้อยกว่า และแม้จะมีเจ้าตลาดอย่าง “เคเอฟซี” ครองความเป็นผู้นำตลาดแบบเบ็ดเสร็จด้วยส่วนแบ่งกว่า 60% แต่ก็ไม่วายมีแบรนด์ดังทั้งในเอเชียและระดับโลก สนใจเข้ามาท้าชนจำนวนมาก เหตุผลสำคัญคือ คนไทยยังคงนิยมบริโภคไก่ทำให้ตลาดฟาสต์ฟูดไก่ปีระกา จะยังคงดุเดือดต่อไป

นอกจากเคเอฟซีแล้วยังมีแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง”บอนชอน” ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการเน้นขยายสาขาเข้าสู่โซนใหม่และหัวเมืองต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคอีสานซึ่งเป็นตลาดมีกำลังซื้อสูง โดยปีนี้มีแผนเปิดสาขาราว 6-7 แห่ง ภายใต้งบประมาณการลงทุนราว 6-7 ล้านบาทต่อสาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 25 แห่ง

ล่าสุด มีผู้ท้าชิงรายใหม่เกิดขึ้นในตลาด นั่นคือ “คารายามะ” (KARAYAMA) ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านไก่ทอดสไตล์คาราอาเกะ ที่บริหารโดยบริษัท อาร์คแลนด์ เซอร์วิส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (Arcland Service Holdings Co., Ltd.) ผู้บริหารเครือร้านอาหารในญี่ปุ่นหลายแบรนด์ โดยได้ซื้อสูตรจากร้านไก่ทอดของชาวบ้านที่เปิดร้านขายอยู่ข้างวัดอาซากุสะ มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันได้ทำการขยายสาขาไปทั่วญี่ปุ่นประมาณ 30 สาขา พร้อมทั้งการขยายสาขาไปยังต่างประเทศ ทั้ง ฮ่องกง เกาหลี และไต้หวัน โดยในเมืองไทย บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด ได้รับสิทธิ์เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ ในระยะ 5 ปี โดยมีสองพี่น้อง บอสส์-ธีรวัฒน์ ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการ และ อู้-ปิยวัลย์ ทวีแสงสกุลไทย รองกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้บริหารงาน โดยเริ่มเปิดร้านไก่ทอดคารายามะ สาขาแรกที่เซ็นทรัลพระราม 3 ชั้น 6 ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2560 และมีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย

จากไก่ทอดสไตล์ชาวบ้านแดนปลาดิบ ที่เปิดขายข้างวัดอาซากุสะ มาอย่างยาวนาน จนชื่อเสียงเลื่องลือเล่าขาน จนมีการขยายสาขาโด่งดังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น วันนี้ “คารายามะ” พร้อมแล้วที่จะเสิร์ฟความอร่อยให้กับทุกท่านในเมืองไทย

ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า “คาราอาเกะ” เป็นอีกเมนูที่คนไทยรู้จักกันดี จากความโดดเด่นด้านความกรอบ อร่อย มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และวันนี้ตำนานความอร่อยฉบับต้นตำรับ ก็ได้เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งทางคารายามะตั้งใจว่า จะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคนในครอบครัว ครัวแบบเปิดโล่ง ทำให้มองเห็นกรรมวิธีการผลิตอันประณีต พิถีพิถัน ภายใต้มาตรฐานที่คุมเข้มจากทางญี่ปุ่น

บอสส์-ธีรวัฒน์ ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้บริหารแบรนด์คารายามะในประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยรสชาติที่เข้มข้นจนเข้าถึงเนื้อใน สูตรลับเฉพาะของทางร้านที่ไม่ใช้กระเทียม และขิงในการหมัก จนทำให้ร้านคารายามะมีความโดดเด่นเป็นที่นิยม จนมีถึง 30 สาขาทั่วญี่ปุ่น และยังขยายความอร่อยไปยังต่างประเทศมาแล้ว ทั้ง เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน

สำหรับเคล็ดลับความอร่อยของไก่ทอดคารายามะ เริ่มจากการคัดเลือกวัตถุดิบที่พิถีพิถัน เลือกใช้ไก่ส่วนน่อง ที่มีเนื้อแน่นนุ่ม เด้ง ทำให้หมักเข้าถึงเนื้ออย่างได้รสชาติ ซอสต้นตำรับ เข้มข้น ด้วยกรรมวิธีการหมักที่พิถีพิถัน ทำให้เนื้อไก่มีรสชาติเข้มข้นในตัว โดยไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม อีกทั้งยังเป็นซอสเกลือหมักกับผลไม้ ทำให้ได้รสชาติของผลไม้ ให้ความรู้สึกว่ารับประทานของทอดได้อย่างสดชื่นโดยไม่รู้เบื่อ

ส่วนของแป้งชุบทอด เป็นแป้งสูตรลับนำเข้าจากญี่ปุ่น ผ่านกรรมวิธีการทอดด้วยน้ำมันที่คัดแล้วว่าได้ตามมาตรฐานของต้นตำรับในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ไก่ทอดมีความกรอบนอก นุ่มใน ไม่แห้ง แต่ไม่อมน้ำมัน ขณะที่ข้าวที่ใช้ในการหุงมีความเหนียวนุ่มตามมาตรฐาน เหมาะกับการรับประทานพร้อมไก่ทอดคารายามะอย่างลงตัว สำหรับวัตถุดิบอื่นๆ อย่างผัก ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี สดใหม่ ผ่านการล้างด้วยน้ำกรอง ทำให้มั่นใจได้ว่า คารายามะ ไม่ได้มีเพียงความอร่อย แต่มั่นใจได้ว่ามาจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ครบถ้วนทั้งด้านรสชาติและมาตรฐาน เสมือนได้เดินทางไปรับประทานที่ญี่ปุ่น

อีกทั้งยังมีเมนูให้เลือกหลากหลาย จะรับประทานที่ร้านหรือซื้อกลับบ้านก็สะดวกและอร่อย ทั้งเมนูทานเล่นและเซ็ตเมนูอิ่มอร่อย ไล่เรียงตั้งแต่ ชุดข้าวไก่ทอดคารายามะ, ข้าวหน้าไก่ทอดราดไข่, ข้าวไก่ทอดนัมบัง, ข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดผักรวม, เซ็ตไก่ทอดภูเขาไฟฟูจิ และอีกหลากหลายเมนูคาวหวาน พร้อมจุดเด่นของทางร้าน เสิร์ฟอาหารภายใน 10 นาที

น่าสนใจว่าแบรนด์ใหม่จะสามารถผ่าด่านอรหันต์ได้หรือไม่ ต้องติดตาม