ต้องยอมรับว่าในธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ ต้องยกให้กับเซเว่นอีเลฟเว่นที่ยืนหนึ่งชนิดไร้คู่แข่งมายาวนาน ปัจจุบัน ร้านเซเว่นฯ ใต้ปีกกลุ่มซีพีตระกูลที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งของเมืองไทยปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้นกว่า 10,000 สาขา ตั้งเป้าว่าจะมีจำนวนสาขาครบ 13,000 สาขาในปี 2564 รองลงมาคือแฟมิลี่มาร์ท ของกลุ่มเซ็นทรัล ร้านลอว์สัน108, จิฟฟี่, ซีเจเอ็กซ์เพรส ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นจากตลาดอื่นเข้ามาร่วมแจมด้วย อย่างเทสโก้ โลตัสยักษ์ใหญ่จากไฮเปอร์มาร์เก็ตที่ยอมรับอย่างไม่อายว่าตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตไม่โต จำต้องมองหาตลาดอื่นและปรับทิศทางธุรกิจ ล่าสุดเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของคอนวีเนียนจึงลุยศึกคอนวีเนียนสโตร์ ด้วยการตั้งเป้า 3 ปีมี Lotus Express 2,300 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศ 1,600 สาขา โดยจะเปิดเพิ่มอีก 750 สาขา หรือเฉลี่ยปีละ 250 สาขา สปีดจะเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง “5 เท่าตัว” ที่เปิดปีละ 50 สาขา
แม้ตลาดไทยจะมีร้านสะดวกซื้ออยู่แล้วกว่า 20,000 สาขา แต่หากเทียบกับอัตราการให้บริการต่อสาขากับประชากร ญี่ปุ่นมีร้านสะดวกซื้อมากกว่าไทย 3 เท่าตัว เกาหลีใต้มากกว่าไทย 2 เท่าตัว จึงมองว่าไทยยังมีโอกาสเปิดร้านสะดวกซื้อได้อีกมาก
เห็นได้จากการขยายตัวของเซเว่นฯ ที่ยังตั้งเป้าขยายสาขาต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 700 สาขา
แน่นอนว่าไม่ใช่มีเพียงเซเว่นฯ เพียงเจ้าเดียวที่มองเห็นโอกาสสดใสนี้ เพราะล่าสุด กลุ่มคาราบาวตะวันแดงก็โดดเข้าสู่ธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ด้วยการส่งน้องใหม่ ภายใต้ชื่อ “ทีดี” (ถูกดี) เข้าสู่ตลาด แบบแยกกันตี ร่วมกันโต เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่า กลุ่มคาราบาวแดงนั้นเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ ซีเจ เอ็กซ์เพรสที่ปลุกปั้นมายาวนานกว่า 14 ปี กระจายอยู่รอบนอกในจังหวัดต่างๆ ของภูมิภาคตะวันออก ภาคกลางกว่า 22 จังหวัดด้วยจำนวนสาขาเกือบ 300 สาขาในปัจจุบัน ทำรายได้ในปี 2560 ไม่เลวร้ายอยู่ที่ 9,219 ล้านบาท กำไร 205 ล้านบาทแซงหน้าลอว์สัน 108 และแฟมิลี่มาร์ท ที่ขาดทุน 230 และ 284 ล้านบาทตามลำดับ
จุดเด่นของซีเจ เอ็กซ์เพรสคือทำเล ที่เน้นพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก และปริมณฑล รวมทั้งในภาคกลาง ตะวันตก ตะวันออก และใต้ตอนบน ที่เป็นแหล่งชุมชน ย่านโรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งคนพลุกพล่านพักอาศัย รวมทั้งการสินค้าแบรนด์เล็กๆ ที่ขายถูกกว่า
อีกทั้งสินค้าเกือบทุกประเภทยังมีราคาขายแบบ ยกลัง หรือจะซื้อปลีกก็แล้วแต่ลูกค้า จับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยหาเช้ากินค่ำเป็นหลัก ทำให้มีการจัดโปรโมชั่นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะโปรโมชั่นราคาที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนในทุกๆ 2 สัปดาห์
แผนการลงทุน 4,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ ซีเจเอ็กซ์เพรสต้องการขยายสาขาให้ครบ 600 สาขา ภายในปี พ.ศ.2563 และในอนาคตจะมีแผนใช้โมเดลแฟรนไชส์ เพื่อเร่งสปีดจำนวนสาขา รวมทั้งการขยายสาขาไปในกลุ่มประเทศ AEC
พร้อมกับตั้งเป้าหมายรายได้ในปี พ.ศ.2563 คือ 20,000 ล้านบาท
เมื่อซีเจ เอ็กซ์เพรสประสบความสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว โต้โผใหญ่ “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” ประธานกรรมการบริหารเครื่องดื่ม “คาราบาวแดง” ต้องการที่จะขยายไลน์ธุรกิจด้วยการเลือกทำโมเดลที่เล็กกว่าซีเจ เอ็กซ์เพรสเพื่อความคล่องตัวในการขยายสาขาโดยเลือกพื้นที่ทางภาคเหนือและอีสานเป็นยุทธศาสตร์หลัก จึงเป็นที่มาของแตกแบรนด์น้องใหม่อย่าง ทีดี
ทำเลที่ต้ังที่ทีดีหมายปองเข้าไปบุกเบิกก็น่าสนใจ เนื่องจากไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเจ้าใหญ่อย่างเซเว่นฯ หลังจากทำการบ้านหนักมาก ทีดี ค้นพบว่าภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังพอมีช่องว่างให้สอดแทรกเข้าไปได้ เนื่องจากเป็นทำเลที่เซเว่นฯ ยังมีไม่มากนัก จึงเร่งเข้าไปปักธงตีตลาดก่อน ภายใต้กลยุทธ์ป่าล้อมเมืองที่ซีเจ เอ็กซ์เพรสเคยใช้ได้ผลมาแล้ว
ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ที่เหลือ ทีดี ต้องสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งโดยเน้นจุดเด่นที่ถูกและดีตามชื่อที่ตั้ง เห็นได้จากการจัดรายการโปรโมชั่นที่โดนใจลูกค้าจะเป็นกระบอกเสียงปากต่อปาก วางระบบให้แข็งแรงและสร้างผลงานให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค จากนั้นจึงจะขยายในรูปแบบแฟรนไชส์หรือการร่วมทุนกับร้านโชห่วยในท้องถิ่นเป็นสเต็ปต่อไป
ในฐานะแบรนด์ลูกหม้อของซีเจ เอ็กซ์เพรสที่ครบเครื่องทั้งสินค้าและช่องทางการกระจายสินค้า ที่คาราบาวตะวันแดงลงทุนไปไม่น้อยมาปรับใช้ได้ทันที รวมถึงการใช้ศูนย์กระจายสินค้าที่คาราบาวตะวันแดงมีอยู่ 31 แห่งทั่วประเทศ และรถขนส่งกว่า 350 คันในการกระจายสินค้าควบคู่ไปกับสินค้าของบริษัทคาราบาวตะวันแดง จะเป็นอีกหนึ่งหมัดเด็ดที่สร้างแต้มต่อให้กับทีดีได้เป็นอย่างดี
บอกคำเดียว งานนี้ สมรภูมิคอนวีเนียนสโตร์ต้องลุกเป็นไฟแน่นอน!!
‘
