คนแพ้นมฟังทางนี้ “ศึกนมแลคโตสฟรี”ทางเลือกใหม่สำหรับคนแพ้นม
ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นตลาดที่หินสำหรับหลายๆ ธุรกิจเนื่องด้วยข้อจำกัดด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ไม่ค่อยเป็นใจทำให้การทำตลาดของหลายสินค้าค่อนข้างฝืดเคืองตามไปด้วย ขณะเดียวกันท่ามกลางความยากลำบากดังกล่าวยังเป็นการก่อกำเนิดและโอกาสของสินค้ากลุ่มใหม่ที่ไปได้สวยด้วยเช่นกัน
แน่นอนแอดกำลังพูดถึงตลาดนมที่เรียกว่า “นมแลคโตสฟรี” หรือ นม 0% ทีททั้งรายใหญ่ รายยังไม่ค่อยใหญ่ทะยอยเข้ามาในตลาดอย่างมากมาย ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 4 แบรนด์ทำตลาดแตกต่างกันออกไป น่าสนใจว่าทำไมนมแลคโตสฟรีถึงได้รับความสนใจจากผู้บริโภค
นมแลคโตสฟรี คือ นมโคแท้ 100% ที่ผ่านกระบวนการย่อยด้วยเอนไซม์ธรรมชาติ แลคเตส ทำให้น้ำตาลแลคโตสในนมหมดไป มีขนาดโมเลกุลเล็กลง ดื่มแล้ว ย่อยง่าย สบายท้อง ดูดซึมไปใช้งานได้ทันที ได้คุณประโยชน์เทียบเท่านมสดธรรมชาติทั่วไป
- เป็นแหล่งของโปรตีนนม ช่วยในการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- มีแคลเซียมนม และฟอสฟอรัสนม ในสัดส่วนที่เหมาะต่อการนำไปใช้ในร่างกาย ช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟัน
- มีวิตามินบีสองสูง ช่วยในการนำคาร์โบไฮเดรตและไขมันไปใช้งาน
- มีวิตามินบีสิบสองสูง ช่วยในการบำรุงระบบประสาทและสมอง
สำหรับคนที่ดื่มนม แล้วมีไม่สบายท้อง ซึ่งเกิดขึ้นกับคนไทยจำนวนมาก (รวมทั้งแอดด้วย) มักแก้ปัญหาด้วยการเลิกดื่มนมไปเลย หันไปดื่มนมจากพืชและธัญพืชแทน ซึ่งมีสารอาหารสำคัญน้อยกว่า ทำให้เสียโอกาสที่จะได้รับคุณประโยชน์ดีๆ จากนมธรรมชาติ
อีกทางเลือกหนึ่งคือ นมแลคโตสฟรี ซึ่งเป็นนมธรรมชาติ ที่ใช้น้ำย่อยธรรมชาติมาย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมให้หมดไป มีขนาดโมเลกุลเล็กลง ดื่มแล้วย่อยง่าย สบายท้อง ได้คุณประโยชน์เทียบเท่านมสดธรรมชาติทั่วไป โดยเฉพาะโปรตีน แคลเซียม และวิตามินหลายชนิด
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็น “ช่องว่าง” ที่ผู้เล่นในตลาดนมพร้อมดื่มส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมองเห็นและให้ความสนใจมากนัก เมื่อเทียบกับในต่างประเทศ
นอกจากนี้ อัตราการบริโภคนมของคนไทย มีเพียง 18 ลิตรต่อคนต่อปี ลดลงจากปี 2016 ที่เคยบริโภคถึง 22 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่ประเทศประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ ที่มีอัตราการบริโภคเฉลี่ย 70-80 ลิตรต่อคนต่อปี หรือคนญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้นไป 80 ลิตรต่อคนต่อปี กลายเป็นโอกาสทองของนมแลคโตสฟรี
ด้วยปริมาณคนดื่มนมที่ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ของคนไทย จำนวนคนที่แพ้นม บวกกับจำนวนผู้สูงอายุที่กำลังจะเพิ่มขึ้นจำนวนเรื่อยๆ กลายเป็นโอกาสทองของนมแลคโตสฟรีที่ฉุดให้เหล่าผู้ประกอบการแห่แหนเข้ามาทำตลาด มีรายไหนกันบ้างไปดูกัน
อ.ส.ค.พร้อมลุยนมแลคโตสฟรี
ผู้ประกอบการรายล่าสุดที่เข้ามาในตลาดนใแลคโตสฟรีคือองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มนมโคสดแท้ 100% อันดับต้นๆของไทย ที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มยูเอชทีใหม่ล่าสุด แบรนด์ไทย-เดนมาร์ค เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ไทย-เดนมาร์ค แลคโตสฟรี” นมยูเอชทีปราศจากน้ำตาลแลคโตส รุกตลาดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์นมแลคโตส ฟรี ที่พบว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ให้เหตุผลว่า เนื่องจากตลาดผู้บริโภคนมปราศจากน้ำตาลแลคโตสมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น อ.ส.ค. ได้เดินหน้าขยายพอร์ทกลุ่มผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ไทย-เดนมาร์ค แลคโตส ฟรี” ทางเลือกใหม่ของนมพร้อมดื่มยูเอชทีที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่แพ้น้ำตาลแลคโตส อ.ส.ค. จึงมุ่งเน้นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงจุด ด้วยผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ปราศจากน้ำตาล ที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100% ที่นำมาผ่านกระบวนการผลิตพิเศษที่ย่อยแลคโตสให้มีขนาดเล็ก ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ดื่มง่าย สบายท้อง ภายใต้ Key Message “นมดีไม่แพ้ ของแท้ไม่ผสม” เหมาะสำหรับผู้บริโภคทั่วไป และผู้บริโภคที่มีปัญหาการย่อยน้ำตาลแลคโตสวางจำหน่ายใน ร้าน 7-11, ร้านนมสดไทย-เดนมาร์ค สาขาทีโอที / ตลาด อตก. / ร้านค้าฟาร์มท่องเที่ยวไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี/ ร้านไทย-เดนมาร์ค มิลค์แลนด์, ตัวแทนจำหน่าย อ.ส.ค. และ TOPS Supermarket โดยเลือกวางตลาด2 ขนาด กล่อง UHT ขนาด 220 มิลลิลิตร และขวดพาสเจอร์ไรซ์ 180 มิลลิลิตร ราคา 19 บาท ตั้งเป้ากวาดยอดขายปีแรก 15 ล้านบาท
“โทฟุซัง” แตกไลน์จากนมถั่วเหลืองลุยนมแลคโตสฟรี
“โทฟุซัง” คือแบรนด์ที่แจ้งเกิดในตลาดในฐานะนมถั่วเหลืองระดับพรีเมียม ผ่านคอนเซ็ปต์ที่ต้องการยกระดับร้านน้ำเต้าหู้ที่อยู่ข้างถนน ขึ้นขายบนห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ เพื่ออุดช่องว่างในตลาดในเรื่องความสะดวกจนประสบความสำเร็จอย่างมากมาย แต่เพื่อต้องการเติบโตต่อไปอีกทั้งตลาดนมวัวใหญ่ที่มีมูลค่าใหญ่กว่าตลาดนมถั่วเหลืองถึง 2-3 เท่า จึงทำให้โทฟุซังตัดสินใจแตกไลน์สินค้าด้วยการเปิดตัวนมแลคโตสฟรี ภายใต้ชื่อ “Essentially” โดยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาในเซเว่นอีเลฟเว่น มีให้เลือก2 รสชาติ คือ รสธรรมชาติและไขมันต่ำ ในรูปแบบกล่อง UHT ขนาด 180 มิลลิลิต ราคา 19 บาท ถือเป็นการแตกไลน์สินค้าครั้งแรกของโทฟุซังที่น่าจับตา
นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง เมจิ ในฐานะผู้เล่นหลักของตลาดนมพร้อมดื่มที่อาศัยความได้เปรียบในฐานะบริษัทในเครือซีพีที่มีเซเว่นเป็นช่องทางขายทั่วประเทศ เปิดตัว “เมจิ โกลด์ แอดวานซ์” นมพาสเจอร์ไรซ์ที่เจาะกลุ่มผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยทองของชีวิต โดยช่วงแรกได้ให้ ดู๋-สัญญา คุณากร ในวัย 53 ปีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก่อนจะขยายไปยังนมพาสเจอร์ไรซ์ ปราศจากน้ำตาลแลคโตส
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้เครดิตคนที่ทำตลาดมาก่อนใครคงต้องยกให้แบรนด์ mMilk ถือเป็นแบรนด์แรกๆ ที่สนใจและทำให้ “นมแลคโตสฟรี” เป็นที่รู้จักของคนในวงกว้างภายใต้บริษัท แมรี่ แอน แดรี่ โปรดักส์ จำกัด ซึ่งรับจ้างผลิตให้รายอื่นและทำนมโรงเรียนอยู่แล้ว
ความโดดเด่นของ mMilk อยู่ที่การเลือกทำแพ็กเกจจิ้งใช้โทนสีขาว-ดำ มาดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น ที่มักจะชอบทดลองสินค้าใหม่ๆ และถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียอวดคนอื่น ซึ่งเป็นไปตามคาด และเลือกวางขายในเซเว่นอีเลฟเว่นซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ก่อนที่จะขยายไปยังรสชาติอื่นๆ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดนมแลคโตสฟรีจะไปได้สวยด้วยปัจจัยบวกต่างๆ มากมายแต่ในความเป็นสินค้าที่ค่อนข้างใหม่บวกกับสนนราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับนมประเภทอื่นๆ อาจจะเป็นปัจจัยลบสกัดความร้อนแรงของนมประเภทนี้หรือไม่
อีกทั้งโอกาสที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ จะเข้ามาทำตลาดจนทำให้แบรนด์เดิมต้องปรับตัวรองรับการแข่งขัน
ถือเป็นโจทย์สำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม