Biznews

คนนิยมเลี้ยงหมา/แมวเป็นเพื่อน โอกาสทองตลาดอาหารสัตว์

ผู้นำโภชนาการเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้แบรนด์ “โรยัล คานิน” จากเมืองน้ำหอม ฉลองครบรอบ 50 ปี สยบช่องว่างตลาดไทยยังมีอัตราการเข้าถึงอาหารสำเร็จรูปในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ อัดงบฯ 200 ล้านบาท เร่งสร้างกลยุทธ์ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้เลี้ยงสุนัขและแมว พร้อมพัฒนาไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ เพิ่มช่องทางการจำหน่าย ขยายฐานกลุ่มลูกค้า เน้นการตลาดเชิงรุกด้วยการตลาดเชิงดิจิทัล มุ่งเป้าการเติบโตมากกว่า 15% จากตลาดรวม 1.3 หมื่นล้านบาท

น.สพ.จดล สุวรรณฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรยัล คานิน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเรื่องโภชนาการเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้แบรนด์ “โรยัล คานิน” (ROYAL CANIN) จากประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า บริษัทฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2510 โดยสัตวแพทย์ชาวฝรั่งเศส “Jean Cathary” ก่อนที่จะเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปี 2548 โดยเน้นจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งขันรายอื่นๆ คือ ความต้องการให้สุนัขและแมวทุกตัวบนโลกนี้สามารถเข้าถึงโภชนาการที่ดีที่สุดตั้งแต่มื้อแรกจนจนถึงมื้อสุดท้ายของชีวิต

“โรยัล คานิน” เชื่อว่าเทคโนโลยีการผลิตอาหารสุนัขและแมวสามารถพัฒนา หรือลอกเลียนแบบกันได้ในเวลาไม่กี่ปี แต่ที่มาของแนวคิด หรือแรงบันดาลใจในการพัฒนาสูตรอาหารไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้ ทั้งยังมั่นใจว่าไม่มีคู่แข่งขันรายใดที่จะลอกเลียนแบบแนวคิดและความเป็นตัวตนของ “โรยัล คานิน” ซึ่งให้ความสำคัญใน 2 ประเด็นหลักคือ 1.ความรู้คู่ความรัก (Knowledge and Respect) ซึ่งมีการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมตามธรรมชาติของสุนัขและแมวก่อนที่จะคิดค้นสูตรอาหาร 2.สุนัขและแมวเป็นศูนย์กลาง (Dog and Cat First) โดยเน้นพัฒนาสูตรอาหารที่เหมาะสมที่สุดตามธรรมชาติของสุนัขและแมว โดยมีทีมวิจัยและพัฒนา รวมถึงนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ซึ่งพิสูจน์โดยสุนัขและแมว ตลอดจนมีการควบคุมมาตรฐานการผลิตในทุกมุมโลก

น.สพ.จดล กล่าวด้วยว่า ภาพรวมตลาดสินค้าและบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มอาหารสุนัขและแมวมีมูลค่ามากกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดประมาณ 45% โดยมีผู้ผลิตและผู้นำเข้ามากกว่า 20 แบรนด์ ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตของจำนวนสัตว์เลี้ยงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2560 ประเทศไทยมีจำนวนสุนัขและแมวรวมมากกว่า 12 ล้านตัว แบ่งเป็นสุนัข 8 ล้านตัว และแมว 4 ล้านตัว จึงคาดว่าในปี 2561 ตลาดอาหารสุนัขและแมวจะเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% โดยตลาดอาหารแมวมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงกว่าอาหารสุนัข

“โอกาสการเติบโตของธุรกิจอาหารสุนัขและแมวในประเทศไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสำคัญคือประเทศไทยยังมีอัตราการเข้าถึงอาหารสำเร็จรูปในเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างต่ำคือ สุนัข 22.4% และแมว 46.7% บริษัทฯ จึงเตรียมแผนในการขยายตลาดกลุ่มโภชนาการเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวให้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยการสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ผู้เลี้ยง รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเน้นทำการตลาดเชิงรุกด้วยการตลาดเชิงดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในอนาคต”

เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ “โรยัล คานิน” บริษัทฯ จึงมีแผนงานให้ความสำคัญต่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เลี้ยงผ่านกิจกรรมทางการตลาดและช่องทางการขายที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้เลี้ยง ด้วยการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของสุนัขและแมว โดยคำนึงถึงสุนัขและแมวเป็นศูนย์กลาง ทั้งยังคงให้ความสำคัญในการพัฒนาร้านค้าให้มีความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ รวมถึงพัฒนาผู้แนะนำสินค้าให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนสามารถแนะนำสินค้าให้แก่ผู้เลี้ยงได้อย่างถูกต้องอย่างต่อเนื่อง

น.สพ.จดล กล่าวอีกว่า ในปี 2561 เตรียมใช้งบประมาณมากกว่า 200 ล้านบาทในการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และคุณภาพของแบรนด์ เพื่อต้องการให้ลูกค้าได้รู้จักและทดลองสินค้า “โรยัล คานิน” เพิ่มมากขึ้น โดยจะเน้นในเรื่องการสื่อสารการตลาดครบวงจร (Integrated Marketing Communication : IMC) โดยเน้นการนำเสนอผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยมีเป้าหมายให้ผู้เลี้ยงมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมวที่แตกต่างจากคนและเปลี่ยนมาใช้อาหารสำเร็จรูปแทนการให้อาหารปรุงเอง เพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตของบริษัทฯ ในปี 2561 ให้ได้อย่างน้อย 15% .โดยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 20%

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดอาหารสุนัขและแมวมีการเติบโตต่อเนื่อง เป็นเพราะพฤติกรรมคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมและไลฟ์สไตล์ เช่น การแต่งงานช้าและน้อยลง อัตราการมีบุตรลดลง การดำรงสถานะโสดมากขึ้น การอยู่อาศัยในลักษณะครอบครัวเชิงเดี่ยว หรือการอาศัยเพียงลำพังมากขึ้น ตลอดจนการเริ่มเป็นสังคมผู้สูงวัย ทำให้ผู้คนนิยมเลี้ยงสุนัขและแมวได้รับเพื่อทดแทนเพื่อน หรือลูกหลานมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้เลี้ยงยังมีความใส่ใจในเรื่องสุขอนามัยสัตว์เลี้ยงมากขึ้นและมีกำลังซื้อสูงทำให้มีการใช้จ่ายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น”

นอกจากนี้ เมื่อพูดถึงนางเอกสาวซุปตาร์ขวัญใจมหาชนตลอดกาลอย่าง อั้ม – พัชราภา ไชยเชื้อ นอกจากบทบาทในจอ ที่ทุกคนต่างยอมรับ จนขึ้นแท่นเป็นนางเอกสาวเบอร์หนึ่งตลอดกาลแล้ว ชีวิตนอกจอเป็นทราบดีว่าเจ้าตัวนั้น รักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะน้องหมาสี่ขาที่ “อั้ม” เลี้ยงดูไว้หลายตัว ต่างก็มีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาว นอกจากนี้ยังเปิดอินสตาแกรม @aum_bokbok_lover เพื่อเป็นสื่อกลาง ให้ความช่วยเหลือสุนัขที่ไร้บ้านไร้เจ้าของ และช่วยตาม หาเจ้าของให้แก่สุนัขที่พลัดหลงออกจากบ้าน

โดย “อั้ม – พัชราภา ไชยเชื้อ” ได้กล่าวว่า ตนเองเชื่อว่าเลี้ยงสัตว์เปรียบเสมือนหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว เป็นเพื่อนแท้ที่ดีที่สุดในวันว่างพักผ่อนอยู่บ้าน ก็จะมีเหล่าน้องหมาเป็นเพื่อนเล่นให้ผ่อนคลาย เวลาเห็นพวกเค้ามีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วย ร่าเริงสดใสก็จะมีความสุขไปกับพวกเค้าด้วย จึงอยากชักชวนทุกคนที่มีเลี้ยงน้องหมาน้องแมวช่วยดูแล เอาใจใส่ เติมเต็มความรักให้กับพวกเค้าอย่างถูกวิธี ดูแลชีวิตทั้งหมดเพื่อให้พวกเค้าอยู่เป็นสมาชิกในครอบครัวไปได้อย่างยาวนานที่สุด

นอกจากนี้อีกหนึ่งหนุ่มพิธีกรเสียงดีมากความสามารถ “อาร์ม – กรกันต์ สุทธิโกเศศ” ก็ยังเป็นผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์และตกเป็นทาสแมว โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “ยุคสมัยนี้แต่ละครอบครัวมีขนาดเล็กลง สังคมมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขี้น สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวจึงเข้ามามีบทบาทเป็นเหมือนเพื่อนหรือลูกของตัวเองทดแทน ทำให้มีคนที่นิยมเลี้ยงสุนัขและแมวเพิ่มมากขึ้น แต่หลายคนอาจจะไม่ได้ศึกษาวิธีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม โดยเฉพาะด้านโภชนาการ หรือสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักทำให้พวกเค้าเจ็บป่วยไม่สบาย ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เช่น หลายคนมีการนำอาหารที่เหลือของตัวเองไปให้น้องหมาน้องแมวกินต่อ เพราะอาจจะคิดว่าปรุงสุกอย่างดีแล้ว แต่ความจริงสารอาหารที่ได้รับนั้นยังไม่ครบถ้วนพอสำหรับพวกเค้า หรือบางคนออกไปทำงานนอกบ้าน จำกัดพื้นที่เลี้ยงดูสุนัขและแมวอยู่แต่ในกรงแคบๆ ไม่มีเวลาพาออกไปวิ่งเล่นข้างนอก พวกเค้าก็เกิดความเครียด สุขภาพจิตแย่ ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพระยะยาว จึงอยากให้ทุกคนหันมามอบอาหารที่ดีมีสารอาหารครบถ้วนเหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด แต่ละสายพันธุ์ที่สุด นอกจากนี้ก็ต้องเรียนรู้พฤติกรรม ธรรมชาติชีวิตของสุนัขและแมวแต่ละสายพันธุ์ ว่าเค้ามีนิสัยใจคออย่างไร ชอบไม่ชอบอะไร เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมแบบไหน

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: