Biznews

ขาลงชาเขียว เสี่ย “ตัน” ซบอสังหากู้ยอด

ในบรรดานักธุรกิจคนสำคัญและถือว่ามีบทบาทมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “ตัน ภาสกรนที” รวมอยู่ด้วยแน่นอน เนื่องจากผู้ชายคนนี้สร้างหลากหลายปรากฏการณ์กลายเป็นที่กล่าวขานมานักต่อนัก

เสี่ยตัน มีชื่อเสียงและสามารถแจ้งเกิดจนทุกคนรู้จักเขาเป็นอย่างดีจากชาเขียวยี่ห้อ โออิชิ ที่คงไม่มีใครปฏิเสธว่า กระแสชาเขียวที่ฮิตระเบิดเทิดเถิงในสมัยก่อนมาจากฝีมือของผู้ชายคนนี้

ก่อนหน้าจะเป็นตัน โออิชิ จนถึง ตันอิชิตันอย่างทุกวันนี้ ผู้ชายคนนี้เคยแบกหนี้กว่า 100 ล้านบาทจากการเก็งกำไรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จังหวัดชลบุรีเพราะมีข่าวว่าเซ็นทรัลจะไปเปิดห้าง แต่เมื่อเจอวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 จนเซ็นทรัลเลื่อนแผน ทำให้ต้องแบกต้นทบดอกนับ 100 ล้านบาท แต่ยังมีดีที่มีผู้มีพระคุณเข้ามาช่วยเหลือจึงทำไห้รอดมาได้ถึงทุกวันนี้

จากนั้น ตันหันเหเข้ามากรุง ด้วยการร่วมทุนกับพรรคพวกทำธุรกิจเวดดิ้งย่านทองหล่อ จนขยายสาขาและประสบความสำเร็จ จากนั้นเริ่มเข้าสู่ธุรกิจเครื่องดื่ม ด้วยการก่อตั้บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และถือว่าประสบความสำเร็จจนได้สมญานามว่า เจ้าพ่อชาเขียว แต่ต่อมา เขาตัดสินใจขายหุ้นใหญ่ของ บมจ.โออิชิกรุ๊ป ที่มีอยู่ให้กับบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) และลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บมจ.โออิชิกรุ๊ป

สัญญาลูกผู้ชาย 3 ปี ที่จะไม่ทำธุรกิจขึ้นมาแข่ง หลังจากผ่านไป 3 ปี ตันได้ก่อตั้งบริษัท ไม่ตัน จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นอิชิตัน กรุ๊ป) ขึ้นมาทำธุรกิจชาเขียวแบรนด์ อิชิตัน ต่อกรกับโออิชิ และจนถึงวันนี้ก็ยังแข่งกันแพ้แข่งกันชนะขึ้นยู่กับโปรโมชั่นว่าของใครจะโดน หรือจะแรงกว่ากัน

ต้องยอมรับว่าเส้นทางชีวิตของเสี่ยตัน ครบทุกรสชาติชีวิต ทั้งบู๊และบุ๋นผู้ชายคนนี้ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนแทบทุกรูปแบบ รวมทั้งหยิบฉวยกระแสสังคมในแต่ละช่วงมาเปลี่ยนเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดจนกลายเป็นที่มาของคำว่า CEO MARKETING ทั้งที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จคละเคล้ากัน

เมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยน ตลาดชาเขียวที่เคยเฟื่องฟูจนมูลค่าตลาดพุ่งขึ้นไปแตะ 16,500 ล้านบาท วันนี้กลับหล่นมาอยู่ที่ 13,700 ล้านบาท อีกทั้ง แคมเปญที่เคยเรียกเสียงฮือฮาอย่างโปรโมชั่นหน้าร้อนก็ไม่ได้มีมนต์ขลังที่จะช่วยกระตุ้นการเติบโตอีกต่อไป ยิ่งทำให้สถานการณ์ของอิชิตันไม่ค่อยสู้ดี ซึ่งไม่เฉพาะแบรนด์อิชิตันเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่ทุกแบรนด์ต้องเจอเหมือนกันหมด

เค้าลางความอึมครึมครั้งใหญ่ในชีวิตของเสี่ยตันส่อเค้าให้เห็นมาตั้งแต่ 2558 ถึงไตรมาสแรกของปี 2560 “อิชิตัน” มีรายได้และผลกำไรสุทธิลดลงมาตลอด โดย ปี 2558 มีรายได้จากการขาย 6,339.6 ล้านบาท แม้จะเพิ่มขึ้น 2.6% จากปีก่อน แต่กำไรสุทธิกลับลดลงเหลือ 812.7 ล้านบาท หรือลดลง 24.7% จากปีก่อนที่ทำได้ 1078.8 ล้านบาท ขณะที่ปี 2559 มีรายได้จากการขาย 5,338.3 ล้านบาท ลดลง 15.8% และมีกำไรสุทธิ 368.5 ล้านบาท ลดลง 54.7%.

จนกระทั่งไตรมาสแรกของปี 2560 รายได้จากการขายอยู่ที่ 1,488 ล้านบาท ซึ่งก็ยังอยู่ในภาวะขาลงต่อเนื่องโดยเติบโตลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,691.9 ล้านบาท.ขณะที่กำไรสุทธิ 62.5 ล้านบาท ลดลงถึง 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 249.8 ล้านบาท

แม่ทัพอย่าง “ตัน ภาสกรนที” พยายามกู้สถานการณ์สารพัดด้าน ทั้งการออกสินค้าใหม่ด้วยการแตกไลน์ไปยังกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง สร้างเซ็กเมนต์ใหม่ที่ผสมเครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มดับกระหาย และฟังก์ชันนอลดริงก์ ภายใต้แบรนด์ “T247” ชนิดไม่เกรงกลัวผู้เล่นรายใหญ่ๆ , การลดจำนวนขนาดบรรจุภัณฑ์ และเน้นตลาดส่งออกต่างประเทศเพื่อชดเชยตลาดในประเทศ ซึ่งเริ่มทำตั้งแต่ปี 2559 โดยเน้นตลาดเพื่อนบ้าน CLMV และอินโดนีเซีย

แต่สิ่งที่จับตาถึงทางออกของตันคือ การหันมาเอาดีในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะสมัยทำชาเขียวได้สะสมที่ดินไว้หลายแปลง โดยก่อนหน้านี้ ได้ปัดฝุ่นย่านทองหล่อ จุดกำเนิดธุรกิจแต่เก่าก่อน มาพัฒนาให้เป็นอาคารสำนักงาน มูลค่า 3 พันล้านบาท ในชื่อโครงการ T-ONE ซึ่งตันบอกว่ามาจากคำว่า ทองหล่อ-วัน หรือจะเรียก “ตัน” ก็ได้ ซึ่งให้ลูกสาวคนโต กิ๊ฟ วริษา ภาสกรนที เป็นผู้ดูแล ภายในมีทั้งบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป เป็นผู้เช่า, มีพื้นที่ Co-Working space, มีบริษัทไอที ธุรกิจออนไลน์-อีคอมเมิร์ซ มาเช่า

ล่าสุด เสี่ยตัน ได้รุกคืบพัฒนา “คอมมูนิตี้มอลล์” แห่งใหม่ “วัน นิมมาน” (ONE NIMMAN) บนทำเลทอง 13 ไร่ ที่ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 1 บริเวณแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตของจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากไปปักหลักโรงแรมไว้แล้ว การสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ครั้งนี้ จึงเป็นการต่อยอดธุรกิจเพื่อพัฒนาสู่การเป็นโครงการมิกซ์ยูส ต่อไป และปักหลักเพื่อเป็นแลนด์มาร์กของเชียงใหม่ตามที่ ตัน เคยตั้งปณิธานไว้ในใจ

ก่อนหน้านี้ตันสะสมที่ดินมากว่า 10 ปี ตั้งแต่ซื้อที่ดินสะสมไว้ในกรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ บางแปลงนำมาพัฒนาเป็นโรงแรมวิลลา มาร็อก ปราณบุรี, โรงแรมอิสติน เชียงใหม่ โดยมี “วริษา” ดูแล

ต้องจับตาดูว่า การกลับเข้ามาสู่เวทีอสังหาริมทรัพย์อีกครั้งของ ตัน จะสร้างความสำเร็จและแก้โจทย์ในใจที่เคยบาดเจ็บจากธุรกิจนี้เมื่อในอดีตได้มากน้อยขนาดไหน

นั่นคือ เส้นทางชีวิตของผู้ชายที่ชื่อ “ตัน ภาสกรนที” ที่ชีวิตมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: