ในยามที่ทุกธุรกิจกำลังแพ้พ่ายให้กับมหันตภัยที่ชื่อ โควิด-19 ชนิดราบคาบ สื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งก่อนหน้านี้บอบช้ำจากการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอลทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสื้นเชิง หลายสำนักข่าวต่างปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงแทบไม่ทัน มีหลายหัวที่ไม่อาจต้านทานจำต้องปิดกิจการเร้นหายจากแผงหนังสือไปอย่างน่าเสียดาย
ไทยรัฐกรุ๊ป แม้จะเป็นยักษ์ใหญ่หัวเขียวที่อยู่ยงคงกระพันในตลาดน้ำหมึกมาอย่างยาวนานก็ไม่สามารถรอดพ้นจากวิกฤตนี้ไปได้ ยิ่งมีสถานการณ์โควิด-19 เข้ามายิ่งเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง
เห็นได้จากตัวเลขผลประกอบการที่ทิ้งดิ่งลงเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2562 บริษัท วัชรพล จำกัด เจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีรายได้รวม 1,706.03 ล้านบาท รายจ่ายรวม 1,722.93 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 36.04 ล้านบาท นับเป็นการขาดทุนเป็นปีแรก ภายหลังจากปี 2560 มีกำไรสุทธิ 603.79 ล้านบาท และปี 2561 มีกำไรสุทธิลดลงมา 313 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างองค์กรโดยลดจำนวนพนักงานลงไปก่อนหน้านี้แล้ว
ล่าสุด ไทยรัฐเปิดหน้าประวัติศาสาตร์ใหม่ด้วยการประกาศรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ เพื่อเตรียมจัดตั้งธุรกิจขนส่งสินค้าภายใต้ชื่อ “ไทยรัฐ โลจิสติกส์” ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ต่อจากธุรกิจหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวีอย่างเต็มตัวและชัดเจน
ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก Thairath Careers ประกาศรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ รวม 8 ตำแหน่งใหม่ วุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายไปจนถึงปริญญาตรี ดังนี้
- Operations Director
- Sales & Marketing
- Process Control & Improvement
- Solution Design & Service
- Logistics Analyst
- Customer Service
- Warehouse
- Driver
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ไทยรัฐกรุ๊ป ขึ้นชื่ออยู่แล้วในความรวดเร็วของการขนส่ง เนื่องจากมีรถขนส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นรถบรรทุก 6 ล้อ เครื่องยนต์พิเศษ ทำความเร็วเฉลี่ย 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อขนส่งหนังสือพิมพ์จากกรุงเทพฯ กระจายทั่วประเทศ
อีกทั้ง ตลาดขนส่งพัสดุกำลังเติบโตและมีศักยภาพกว่าธุรกิจประเภทอื่น ยืนยันจากบทวิเคราะห์ของ “EIC ธนาคารไทยพาณิชย์” ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์ “ธุรกิจขนส่งพัสดุในปี 2020” คาดว่ามูลค่าตลาดธุรกิจขนส่งพัสดุของไทย มีแนวโน้มเติบโตราว 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 66,000 ล้านบาท
ตลาดธุรกิจขนส่งพัสดุ มีการเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปี (ระหว่างปี 2560-2562) โดยขยายตัวได้เฉลี่ย 40% ต่อปี ตามความนิยมในการใช้บริการ “อี-คอมเมิร์ซ” คาดว่าการขนส่งพัสดุในปี 2020 จะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 4 ล้านชิ้นต่อวัน
ในตลาดดังกล่าว มีเจ้าตลาด 2 ราย ได้แก่ “ไปรษณีย์ไทย” ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 41% ตามด้วย “เคอร์รี เอ็กซ์เพรส” 39% จากการเติบโตสวยหรูทำให้มีแบรนด์อื่นๆ ทยอยเข้ามาเปิดตลาดในไทยมากขึ้น อาทิ เบสท์ โลจิสติกส์, เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส และ ซีเจ โลจิสติกส์
นับเป็นการปรับตัวของธุรกิจหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐที่อยู่ในอุตสาหกรรมสื่อเก่าขาลง เพื่อเข้าสู่ธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารของทายาท “เจน 3” ตระกูลวัชรพล ที่ต้องดิ้นหาทางรอดและสร้างโอกาสธุรกิจใหม่
การเข้ามาเล่นในอุตสาหกรรมขนส่งโลจิสติกส์จึงเป็นการปรับตัวที่น่าจับตามอง เนื่องด้วยตลาดนี้มีผู้เล่นยักษ์ใหญ่จำนวนมากทั้งไทยและเทศ ที่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเมามันส์
ต้องรอดูว่า น้องใหม่ไฟแรงเว่อร์อย่าง’ไทยรัฐ โลจิสติกส์’ จะงัดไม้เด็ดใดมาต่อกรกับขาใหญ่ที่ยืนเรียงรายอยู่เบื้องหน้าในเวลานี้ .…
