ท่ามกลางการแข่งขันอย่างรุนแรงของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้านที่โตตามธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เราจึงได้เห็นการเข็ญกลยุทธ์ต่างๆ นานาเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค ทั้งการปรับปรุงโชว์รูมและสินค้าให้ทันสมัย การนำเสนอเทคโนโลยีและการบริการที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องการความแตกต่างและไม่เหมือนใคร
ล่าสุด ชิค รีพับบลิค อีกหนึ่งผู้ประกอบการในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ปรับตัวครั้งสำคัญด้วยการดึงแบรนด์ Ashley เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังสัญชาติอเมริกันเข้ามาวางจำหน่ายในโชว์รูมทุกสาขา
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้าน ภายใต้แบรนด์ “ชิค รีพับบลิค” (CHIC) และ “ริน่า เฮย์” (RINA HEY) เปิดเผยถึงหลักในการทำงานว่า เนื่องจากโลกเปลี่ยน ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงถ้าเราไม่ปรับก็คงอยู่ไม่ได้ ที่สำคัญเราต้อง DIsrup ตังเองก่อนที่จะโดน Disrup พร้อมทั้งหาพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาร่วมด้วย อีกทั้งต้องมองระยะยาว 5-10 ปีพร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ตามสภาพการแข่งขันของแต่ละสถานการณ์ควบคู่กัน
วิชั่นดังกล่าวจึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับแบรนด์ Ashley เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังสัญชาติอเมริกันที่มีประสบการณ์ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์และได้รับการยอมรับของประเทศทั่วโลก มายาวนานกว่า 70 ปี ปัจจุบันมีสาขาครอบคลุมกว่า 850 สาขาทั่วโลก ภายใต้คอนเซ็ปท์ Ashley Furniture Home Store สะท้อน Lifestyle ที่มีความทันสมัยแบบอเมริกันสไตล์ ออกแบบในสไตล์ต่างๆ เช่น Vintage Casual, Mane+Mason, Urbanology, Contemporary Living, New Traditions, Family Space เน้นการดีไซน์สวยหรู มีเอกลักษณ์แบบอเมริกันสไตล์ ด้วยกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสูง จึงสามารถมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และยังสามารถตอบโจทย์การตกแต่ง การใช้งานภายในบ้านได้อย่างลงตัว เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น โฮมออฟฟิศ ห้องอเนกประสงค์ ห้องเด็ก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำ และลานกลางแจ้ง มีกลุ่มผลิตภัณฑ์มากกว่า 10 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น เตียง ตู้ ชั้นวาง โต๊ะทำงาน โต๊ะรับประทานอาหาร โซฟา ลิ้นชัก ชั้นวาง และทีวี
เบื้องต้น บริษัทจะนำผลิตภัณฑ์ของแอชลีย์เข้ามาวางจำหน่ายใน 2 ช่องทาง ประกอบด้วย 1.เว็บไซต์ (Web order) Website : www.chicrepublicthai.com 2.ผ่าน 4 สาขา (Offline) ได้แก่ สาขาบางนา สาขาประดิษฐ์มนูธรรม สาขาราชพฤกษ์ และสาขาพัทยา ซึ่งชิค ได้ปรับพื้นที่ประมาณ 1,000-1,200 ตารางเมตร โดยใช้งบประมาณในการปรับปรุงประมาณ 1.5-2 ล้านบาทต่อสาขา ในทุกสาขาให้เป็นโซนแสดงสินค้าเฉพาะของแอชลีย์ สำหรับแผนการตลาดเบื้องต้น บริษัทจะเน้นการทำตลาด และโปรโมตสินค้าให้เป็นที่รู้จัก
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งงบการตลาดไว้ที่ 3-5% ของยอดขาย จากแผนการทำการตลาดให้ Ashley เป็นที่รู้จักในไทยมากขึ้น ซึ่งจะทำการสร้างแบรนด์ผ่านการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ได้แก่ การขายผ่านเว็บไซต์ และการขยายร้านค้าไปยังหัวเมืองต่างๆ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และอุดรธานี ใช้งบลงทุนราว 220-250 ล้านบาทต่อสาขา ตามแผนการขยายสาขาของชิค ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในพื้นที่ดังกล่าวได้
“ภาพรวมธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ในช่วงที่เหลือของปี 61 ตลอดจนถึงปีหน้า คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีความมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ทั้งแนวราบและแนวสูงคาดว่าจะเปิดตัวมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทได้มีการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการเลือกซื้อของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ” นายกิจจา กล่าว
ส่วนภาพรวมธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ในช่วงที่เหลือของปี 61 ตลอดจนถึงปีหน้า คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีความมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับ Hi-end ทั้งแนวราบและแนวสูงคาดว่าจะเปิดตัวมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทได้มีการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการเลือกซื้อของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ
นอกจากนี้ ชิค รีพับบิลยังมีแผนเปิดสาขาใหม่ๆ ต่อเนื่องในอีก 5 ปีข้างหน้าเปิดอีก 5 สาขาเฉลี่ยปีละ 1 สาขาใช้เงินลงทุนประมาณ 220-250 ล้านบาท โดยสาขาในต่างประเทศเปิดให้บริการแล้วที่ประเทศกัมพูชาและมีแผนที่จะเปิดสาขาอื่นๆ ต่อไปในกลุ่ม CLMV ซึ่งกิจจาย้ำว่า ทุกสาขาที่ไปต้องเป็นทำเกรดเอเท่านั้น
ส่วนสาขาในประเทศ มีแผนที่จะเปิดในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ ๆ อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น
นี่คือวิชั่นล่าสุดของแม่ทัพ ชิค รีพับบลิค ที่ชื่อ “กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ”
