กลุ่มเซ็นทรัล ทุ่ม 1,000 ล้าน เตรียมเปิดปอร์โต เดอ ภูเก็ต

บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กางแผนธุรกิจไตรมาส 4 ของปี 2562 เดินหน้าเปิดศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ “ปอร์โต เดอ ภูเก็ต” ชูจุดเด่นไม่เหมือนใคร ผสมผสานทุกไลฟ์สไตล์ของคนทุกเพศทุกวัย และความเป็นธรรมชาติอย่างลงตัว ตอบรับแนวทางพัฒนาเมือง ภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้ (Phuket Smart City) ครอบคลุมทุกด้านการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจ พร้อมดันให้ภูเก็ต เป็นเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลก

นายเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของเซ็นทรัล ภูเก็ต ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัล เล็งเห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูเก็ต ด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง โดยในปี 2017 มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 16.9 ล้านคน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจกว่า 3.77 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าในอีก 2-3 ปีจะมีนักท่องเที่ยวมากถึง 20-25 ล้านคน ยอดเงินสะพัดในจังหวัด กว่า 5.55 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและนักท่องเที่ยวในภูเก็ตที่จะเพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเซ็นทรัลจึงเดินหน้าเปิดศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ “ปอร์โต เดอ ภูเก็ต” ภายใต้แนวคิด “ที่สุดแห่งประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่า” (The Finest Living Experience) ซึ่งเป็นโครงการแห่งแรกและแห่งเดียวที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์ ไลฟ์สไตล์และพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัว เพื่อตอบรับกับเทรนด์การเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของคน รุ่นใหม่ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 1,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 40,000 ตร.ม. โดยชู 7 ไฮไลท์สำคัญ ประกอบด้วย

1. ภูเก็ตเที่ยน เมอร์คาโด้ (Phuketian Mercado) ฟู้ดเดสติเนชั่น ที่รวบรวมร้านอาหารชั้นนำ คาเฟ่ บาร์และร้านเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบ จากทั่วทุกมุมโลก มาให้บริการในที่เดียวภายใต้แนวคิดวัน ซิงเกิ้ง รูฟ คอนเซปต์ (One Single Roof Concept) รวมถึงร้านพลอย คาเฟ่ (Ploy’s Café) ร้านอาหารไทยของ พลอย ณัฐณิชา บุญเลิศ หรือ พลอย จากรายการมาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ในบรรยากาศที่สุดพิเศษ ให้เลือกแฮงเอ้าท์กันได้ตั้งแต่เช้า จรดค่ำ

2. เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ (Central Food Hall) สุดยอดฟู้ดสโตร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย ครอบคลุมทั้ง 8 ประเภท ได้แก่ เนื้อสัตว์และซีฟู๊ดคุณภาพเยี่ยม,เบเกอรี่, ชีส, ไวน์เลิศรส, สินค้าอุปโภค-บริโภคจากทั้งในและต่างประเทศ,และผลิตภัณฑ์ความงาม

3. เรสเตอรองส์ แอนด์ คาเฟ่ โซน (Restaurant and Café Zone) แหล่งรวบรวมร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดภูเก็ต และกรุงเทพ เช่น ร้านตู้กับข้าว สุดยอดร้านอาหารพื้นเมืองของภูเก็ต , สไปซ์ เฮ้าส์ (Spice House) อาหารรัสเซียสูตรต้นตำรับ, ไท บาย เรด สแนปเปอร์ (Tai by Red Snapper) ร้านอาหารฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น , ร้านแฟล็กชิพสโตร์ที่สมบูรณ์ที่สุดของไวน์ คอนเนคชั่น (Wine Connection) และร้านอูบานี่ ทรัฟเฟิล บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ (Urbani Truffle Bar & Restaurant) ร้านอิตาเลียนสุดหรูในธีมทรัฟเฟิล ที่เน้นการใช้วัตถุดิบชั้นดีมาประกอบอาหาร นอกจากนี้ยังมีมุมที่จัดวางสินค้าจากทรัฟเฟิลให้เลือกช้อปกลับไปปรุงอาหารกัน เป็นต้น

4. มัลติดีไซน์ เฮ้าส์ (Multi Design House) รวบรวมของดีไซน์ จากหลากหลายดีไซเนอร์ชั้นนำ ทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากกลุ่มธุรกิจหลักของเซ็นทรัล ที่คัดสรรสินค้าและบริการ ด้วยสเปเชียลตี้ สโตร์ (Specialty Store) ฟอร์แมทใหม่ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์ บาย, บีทูเอส และแฟมิลี่มาร์ท เป็นต้น

5. Healthy Heaven นอกจากสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพื้นที่สีเขียว ยังมีบริการจากบิวตี้ สปา ซาลอนเสริมความงาม ฟิตเนส และมัทสึคิโยะ ร้านสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพ

6. Kid Learning Space พื้นที่สนามเด็กเล่นเอ้าท์ดอร์ กว่า 300 ตร.ม. พร้อมลานกิจกรรมสำหรับเด็กๆ อาทิ เลนจักรยาน, ตาข่ายใยแมงมุมเพื่อปีนป่าย และบ่อทราย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมและเวิร์คช้อปต่างๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา

7. Pet Friendly Zone ศูนย์การค้าแรกและศูนย์การค้าเดียวในภูเก็ตที่เอาใจคนรักสัตว์ ด้วย สนามหญ้าขนาดย่อมที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้ ร้านของของสำหรับสัตว์เลี้ยง และบริการกรูมมิ่งสัตว์เลี้ยง

สำหรับศูนย์การค้า ปอร์โต เดอ ภูเก็ต คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวใช้บริการที่ศูนย์ฯ อย่างน้อย 3 ล้านคน ต่อปี คิดเป็น
1. คนในพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูง (Local) , ชางต่างชาติที่ได้รับอนุญาตทำงานในภูเก็ตที่พักอาศัยบริเวณนี้ (Expat) รวม 40 %
2. นักท่องเที่ยวต่างชาติ 60% แบ่งเป็น 2 เซกเมนต์ ได้แก่ 1.) นักท่องเที่ยวสไตล์ FIT (Free and Independent Traveler) เช่น ชาวจีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, และสิงค์โปร์ ที่จะมีกำลังซื้อสูง เน้นการท่องเที่ยวแบบพรีเมี่ยมและพร้อมจะจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์ใหม่ๆ โดยจะมีระยะเวลาในการมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เฉลี่ยอยู่ที่ 5- 7 วัน 2.) นักท่องเที่ยวตะวันตกที่มีกำลังซื้อสูง (Western High Spenders) เช่น ชาวรัสเซีย เยอรมัน อังกฤษ และอเมริกา ซึ่งเน้นการพักผ่อนในระยะยาว (Long Stay)

มร.นิค ไรท์ไมเออร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฟู้ด ฮอลล์ และสายจัดซื้อสินค้าต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่าเพื่อผลักดันให้ ปอร์โต เดอ ภูเก็ต เป็นที่สุดของฟู้ด เดสติเนชั่นแห่งใหม่ของภูเก็ต เราจึงคัดสรรสินค้าอุปโภค บริโภคอย่างพิถีพิถัน จากทั้งในและต่างประเทศ โดยยกโมเดล เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ (Central Food Hall) สุดยอดฟู้ดสโตร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย พร้อมโซนพิเศษ ได้แก่ เคาน์เตอร์ชีส ที่ให้บริการชีสชั้นเลิศจากทั่วโลกกว่า 400 รายการ และ โซนปิ้งย่างอาหารทะเลสดและเนื้อสัตว์ (The Grill Bar & The Catch & Central Wine Cellar) ให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรชิ้นเนื้อเองได้ พร้อมไวน์รสเลิศให้เลือกสรรกว่า 400 รายการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับที่สุดของประสบการณ์การกิน เที่ยว ดื่ม อย่างเหนือระดับ

ทั้งนี้ศูนย์การค้าปอร์โต เดอ ภูเก็ต อยู่ในตำบลเชิงทะเล ใกล้กับ “ลากูน่า ภูเก็ต” ซึ่งเป็นเดสติเนชั่น รีสอร์ตที่ดีที่สุดในเอเชีย ศูนย์กลางของคอนโดมีเนียม อพาร์ทเมนต์ และวิลล่าระดับไฮเอนท์ โดยมีโรงแรมมากกว่า 12,000 ห้อง คอนโดมีเนียมมากกว่า 5,000 ยูนิต และ มีวิลล่ามากกว่า 2,000 ยูนิต และมีอัตราการซื้อขายสูงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ด้วยทำเลที่ใกล้ชิดกับแหล่งที่พักอาศัย และชุมชน “ปอร์โต เดอ ภูเก็ต” จึงเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ที่ส่งเสริมการพักผ่อน สังสรรค์ ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น และเป็นมิตรกับคนทุกเพศทุกวัย

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: