Columnist

กระแส “ออเจ้า” ฉุดช่อง 3 ฟื้นทันตา

กระแส “ออเจ้า” ฉุดช่อง 3 ฟื้นทันตา

สร้างสถิติ “รายได้-เรตติ้ง” สูงสุด

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2561ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 3 ซึ่งแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่า ในปี 2560 ทีผ่านมา มีรายได้รวมทั้งปี 11,035 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10 จากปี 2559 ที่มีรายได้รวม 12,265.8 ล้านบาท

ในขณะที่กำไรในปี 2559 อยู่ที่ 1,218.29 ล้านบาท แต่กำไรปี 2560 ลดลงมาเหลือ 61 ล้านบาท

บุพเพสันนิวาส

ทั้งนี้ “บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศครั้งแรกวันที่ 21 ก.พ. เรตติ้งเปิดตัวเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 3.417 ก่อนจะค่อยๆไต่อันดับความนิยมมาเรื่อยๆ กระทั่งสูงกว่าทุกช่อง จนสร้างสถิติใหม่ ในตอนที่ 11 ซึ่งออนแอร์ในวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยเรตติ้ง 17.437 กลายเป็นละครที่เรตติ้งสูงสุดในยุคทีวีดิจิทัล แซง “นาคี” ที่ได้เรตติ้งตอนจบที่ 17.291

แค่เพียง 1 เดือนต่อมา หลังจากละคร “บุพเพสันนิวาส” ลงจอ สร้างปรากฏการณ์ “ออเจ้า” กันทั้งเมือง จากสถานการณ์ที่ช่อง 3 กำลังทรุด ราคาหุ้นตก ผู้บริหารลาออก วันนี้ราคาหุ้นของบีอีซี ได้ผ่านจุดต่ำสุดขึ้นมา จนเมื่อวันที่ 30 มี.ค​.ที่ผ่านมา ปิดตลาดอยู่ที่ราคา 13 บาท

ไม่ใช่แค่ต่อลมหายใจ แต่ยังทำให้ผลประกอบการไตรมาสแรก พ้นขีดอันตรายอีกด้วย

เว็บ Positioning ระบุว่า ละครบุพเพสันนิวาสออกอากาศไปแล้ว 12 ตอน จากทั้งหมด 15 ตอน ออกอากาศวันละ 2.30 ชั่วโมง มีเวลาโฆษณาตอนละ 31.25 นาที คิดเป็นรายได้จาก 15 ตอน ช่อง 3 จะมีรายได้ทั้งหมด 225 ล้านบาทจากละครทั้งเรื่อง

แต่เมื่อช่อง 3 ประกาศเพิ่มตอนพิเศษอีก 3 ตอนในช่วงสงกรานต์ ซึ่งปกติเป็นช่วงที่สินค้าต่างๆ จะไม่ใช้เงินลงทุน เพราะเป็นเทศกาลหยุดยาว แต่ปรากฏว่าลูกค้าติดต่อผ่านเอเจนซี่รุมซื้อจนเต็มทั้ง 3 ตอนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมรายได้จากช่วงนี้ จะได้อีก 45 ล้านบาท เมื่อรวม 18 ตอน ช่อง 3 ได้เงินจากค่าโฆษณาทั้งหมด 270 ล้านบาท

เมื่อกระแสออเจ้าได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น ทำให้ช่อง 3 เร่งจัดอีเวนต์ การขายสินค้า merchandise พิเศษของละคร สติกเกอร์ไลน์ รวมถึงรายได้จากโฆษณาออนไลน์ ทางเว็บ Ch3Thailand และ Mello ช่องทางออนไลน์ของช่อง 3 เม็ดเงินตรงนี้ รวมแล้วคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท

ไม่เฉพาะแค่ละครบุพเพสันนิวาสเท่านั้น แต่กระแสความนิยมยังทำให้ รายการก่อนและหลังมีเรตติ้งดีขึ้นด้วย ตัวอย่างเรตติ้งรายการช่วง 20.00-23.00 น. ของวันพฤหัสที่ 29 มี.ค. “บุพเพสันนิวาส” ได้เรตติ้ง 17.379 สร้างปรากฏการณ์เรตติ้งสูงสุด

“สีสันบันเทิง” ได้อานิสงส์ เรตติ้ง 11.707 ตามต่อด้วย รายการแฟลชนิวส์ (20.20) รายการข่าวสั้นก่อนเข้าละคร ได้เรตติ้ง 13.059 และแม้ว่าละครจบแล้ว แต่ก็ยังทำให้รายการ “ข่าว 3 มิติ” ได้เรตติ้ง 4.658

แน่นอนว่าจากเรตติ้งที่ดีทั้งช่วงไพร์มไทม์นี้ ทำให้ช่อง 3 สามารถขายโฆษณาได้เพิ่มขึ้นทั้งก่อนและหลังละครอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม “บุพเพสันนิวาส” มีกำหนดจะจบในวันที่ 19 เม.ย.นี้ นับเป็น 2 เดือนที่ กระแสออเจ้าได้สร้างบันทึกหน้าใหม่ในการช่วงชิงเรตติ้งให้กับละครหลังข่าวเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงเรตติ้งเท่านั้น แต่ยังทำให้บริษัท ผลิตละครเรื่องนี้ คือ บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ได้กำไรไปไม่น้อย หลังจากไม่กี่ปีที่ผ่านมาค่อนข้างเงียบเหงา

บุพเพเสันนิวาส

บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 90 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ละคร ข่าวสารคดี ปัจจุบันเน้นผลิตรายการประเภทละครโทรทัศน์เป็นหลัก ก่อตั้งโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์ อดีตผู้กำกับรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2532 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท

ในปี 2558 ผลประกอบการของบริษัท ขาดทุนกว่า 47 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 มีกำไร 16 ล้านบาท

คาดว่าในปีนี้จะเป็นปีทองของ บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ที่นอกจากรางวัลที่จะได้จากละครบุพเพสันนิวาสแล้ว เชื่อได้ว่าผลประกอบการในปีนี้ยังสวยหรูอีกแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบบางส่วนจาก Positioning

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: