Biznews

“Beauty For All” กลยุทธ์ความสำเร็จ “ลอรีอัล”

ไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในภา่วะใด ตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นตลาดเดียวแบบฉุดไม่อยู่คือ ตลาดเครื่องสำอางเนื่องจากความใส่ใจในดานความสวยความงามอยู่คู่กับคนทั่วโลกมาอย่างยาวนานชนิดที่ว่าใคร ๆก็อยากดูดีอยู่ตลอดเวลาทำให้ตลาดเครื่องสำอางโดยเฉพาะเคาน์เตอร์แบรนด์ที่แม้ว่าราคาจะแพงระยับก็ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค

ลอรีอัล ประเทศไทย ดูจะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่พิสูจน์ความสำเร็จได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผลประกอบการที่เติบโตสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งหลายสิบปีหลังจากที่เอเย่นต์ต่างๆ ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์หลายแบรนด์ของบริษัทลอรีอัลเพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านความงามของผู้บริโภคคนไทย ลอรีอัลได้เปิดสำนักงานแรกในประเทศไทยในปี 2535 และสำนักงานที่สองในปี 2537 และได้รวมสองสำนักงานนี้เป็นบริษัทเดียวกันในปี 2540 ภายใต้ชื่อ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด

หลังจากที่นายฌอง พอล แอกง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลอรีอัล ได้ประกาศพันธสัญญาเรื่องความยั่งยืนสำหรับปี 2020 ภายใต้ชื่อ “Sharing Bea uty With All” หรือ “การแบ่งปันความงดงามให้ทุกสรรพสิ่ง” ด้วยวิสัยทัศน์ การทำให้ความสวยงามเป็นสิ่งที่ยั่งยืนและทำให้ความยั่งยืนเป็นสิ่งที่สวยงาม พร้อมความเชื่อมั่นในความงามของการปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยในปีที่ผ่านมา ลอรีอัล ประเทศไทย ได้เช่าพื้นที่ทีพาร์ค บางนาขยายพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ รองรับการเติบโตในฐานะบริษัทความงามที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่ 20,736 ตารางเมตร โดยพื้นที่แห่งนี้ได้รับการก่อสร้างตามมาตรฐาน LEED® การก่อสร้างออกแบบระบบพลังงานและสิ่งแวดล้อมในอาคาร (LEED – Leadership in Energy and Environmental Design) ขององค์กรผู้นำด้านการกำหนดมาตรฐานอาคารสีเขียวในสหรัฐ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมากลายเป็น ศูนย์กระจายสินค้าสีเขียวแห่งแรกของลอรีอัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ล่าสุด ลอรีอัล (ประเทศไทย) ได้เปิดเผยผลประกอบการใน 2559 มีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดความงามต่อเนื่องเป็นที่ 5 และยังคงเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุด ซึ่งเร็วกว่าการเติบโตของธุรกิจความงามโดยเฉลี่ยถึงสองเท่าด้วยยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่มรวม 123 ล้านชิ้น ขณะที่ภาพรวมตลาดความงามในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่า 6.5% มีมูลค่ารวมกว่า 1.54 แสนล้านบาท โดยกลุ่มเครื่องสำอางมีอัตราเติบโตมากที่สุดด้วยส่วนแบ่งการตลาด 14% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 7% ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดที่ 46%

ทั้งนี้ ตลาดความงามของประเทศไทยยังถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มอาเซียน โดย ลอรีอัล ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งสาขาที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศนี้เช่นกัน จากรายงานของยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor) ตลาดความงามและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล (personal care) ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่สามของโลก ซึ่งตลาดความงามในประเทศกำลังพัฒนาเช่นประเทศไทยนั้น จัดเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ช่วยขับเคลื่อนอัตราการเติบโตให้กับภูมิภาคนี้ทั้งหมด

เพื่อสานต่อความสำเร็จในปี 2560 และเดินหน้าความมุ่งมั่นในการก้าวสู่บริษัทความงามอันดับหนึ่งของประเทศ ลอรีอัล ประเทศไทย มุ่งเน้นเสริมสร้างความเป็นเลิศใน 4 ด้าน คือ 1) การให้ความสำคัญกับผู้บริโภคโดยการยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง 2) การเชื่อมต่อตลาดความงามกับโลกดิจิทัล 3) การพัฒนาและดูแลบุคลากร และ 4) การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและกิจกรรมเพื่อสังคม

นอกจากนั้นแล้ว ลอรีอัล ประเทศไทย ยังมีแผนดำเนินงานทางด้านดิจิทัลที่เข้มข้นมากขึ้น โดยล่าสุดได้แต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลคนแรกเพื่อดูแลและวางแผนกลยุทธ์การดำเนินงานด้านดิจิทัลองค์รวม และนำทัพทีมงานด้านดิจิทัลที่มีจำนวนกว่า 20 คน ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมานั้น การเติบโตด้านอีคอมเมิร์ซของลอรีอัล ประเทศไทยมีอัตราสูงกว่า 169%

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: