“Beautiful Bangkok 2019” ตอกย้ำกรุงเทพฯขึ้นมหานครชั้นนำระดับโลก
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (MQDC) หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย สร้างปรากฎการณ์แห่งสีสันสุดอลังการ ตื่นตาตื่นใจให้ย่านราชประสงค์อีกครั้ง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยจัดกิจกรรม “Beautiful Bangkok 2019 : The Symphony of Happiness” บนตึกสูง 60 ชั้น โครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ ผสานเทคโนโลยี ผลงาน 7 ศิลปินไทยชั้นนำ เพื่อมอบความสุขให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยว ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2019 ระหว่างวันที่ 18-31 ธ.ค.นี้ คาดมีคนมาชมงานเพิ่มจากปีที่แล้ว 50% จากวันปกติ 600,000 คน/วัน เป็น 900,000 คน/วัน
วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า นับเป็นปีที่ 2 แล้ว ที่ MQDC ได้สร้างความฮือฮา โดยจัดกิจกรรม “Beautiful Bangkok” การแสดง แสง สี เสียง ด้วยเทคนิคพิเศษสุดตระการตา บนตึกสูง 60 ชั้น ณ โครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เพื่อสร้างสีสันความสุข ความตื่นตาตื่นใจให้กับคนไทย และนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งในปีที่แล้วเราได้จัดกิจกรรม “Beautiful Bangkok by Magnolias @Ratchaprasong” (บิวตี้ฟูล แบงค็อก บาย แมกโนเลียส์ แอท ราชประสงค์) ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง สามารถช่วยดึงดูดผู้คนมาเดิน มาเที่ยวชมไฟในย่านราชประสงค์เพิ่มขึ้น
ปีนี้ MQDC พร้อมจะตอกย้ำการเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมฯ โดยสร้างปรากฏการณ์ และสร้างความประทับใจอีกครั้ง ด้วยการสร้างสีสันความสุข และความสมบูรณ์แบบให้ย่านราชประสงค์ โดยจับมือ สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) จัดกิจกรรม Beautiful Bangkok 2019 “The Symphony of Happiness” การแสดง แสง สี เสียง ด้วยเทคนิคพิเศษสุดตระการตา บนตึกสูง 60 ชั้น เพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2019 โดยมีจุดประสงค์ที่สำคัญ คือ เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ และส่งเสริมภาพลักษณ์กรุงเทพมหานคร ในฐานะมหานครแห่งการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก
วิสิษฐ์ เผยด้วยว่า ได้จัดสรรงบประมาณไว้ 100 ล้านบาท สำหรับการจัดงานนี้ขึ้น ภายใต้แนวคิด Beautiful Bangkok “The Symphony of Happiness” ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ผสานเทคโนโลยี นำเสนอศิลปะอันวิจิตร เปี่ยมสีสัน และชีวิตชีวา ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์โดย 7 ศิลปินชั้นนำของไทยที่ผลงานเป็นที่รู้จักในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวชม โดยเราจะใช้ Façade (ฟาซาด) ซึ่งเป็นจุดเด่นส่วนหนึ่งของโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) มาใช้เป็นพื้นที่ในการฉายไฟเข้าไปที่ตึกด้วยเทคโนโลยีระดับสูง เพื่อสะท้อนความสวยงามของกรุงเทพฯ ให้ประจักษ์แก่สายตาคนทั่วโลกอีกครั้ง เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่คนกรุงเทพฯ เพื่อสร้างรอยยิ้ม ความสุขและความภาคภูมิใจ เราเชื่อว่างานครั้งนี้จะสามารถดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในช่วงเทศกาลแห่งความสุข
ปรากฏการณ์แห่งความตื่นตาตื่นใจนี้ มีกำหนดการแสดง เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 18 ถึง 31 ธ.ค. 61 โดยวันที่ 18 ธ.ค. 61 จะมี 7 รอบ ในเวลา 19.20/ 19.40/ 20.00/ 20.20/ 20.40/ 21.00 และ 21.20 น. วันที่ 19 – 30 ธ.ค. 61 มี 7 รอบเช่นกัน ในเวลา 19.00/ 19.20/ 19.40/ 20.00/ 20.20/ 20.40 และ 21.00 น. ส่วนวันที่ 31 ธ.ค. 61 เพิ่มรอบส่งท้ายปีเก่า อีก 1 รอบ ในเวลา 23.55 น.
การร่วมมือกับสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการจัดงานครั้งนี้ MQDC เชื่อว่าจะช่วยหนุนเสริมการพัฒนาย่านราชประสงค์ให้เติบโตสู่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจระดับโลกต่อไป และเราคาดหวังว่าการแสดง แสง สี เสียง ในปีนี้ จะสามารถดึงดูดผู้คนมาเดินเที่ยวมาชมไฟในย่านราชประสงค์ในเดือนธันวาคมเพิ่มมากขึ้น 50% จากปกติมีคนเดินประมาณ 600,000 คน/วัน เพิ่มขึ้นเป็น 900,000 คน/วัน
“โครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) ของเรา มีมูลค่าโครงการราว 11,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีการตอบรับดีมาก หลังจากการเปิดตัวโรงแรม Waldorf Astoria วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย เป็นโรงแรมสุดหรูระดับตำนานที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มาตั้งอยู่บนโครงการแมกโนเลียส์ฯ ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้โครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เป็นที่ต้อนรับกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ได้มาใช้บริการและพักอาศัย
ในด้านความสำเร็จของโครงการ MRB ที่เปิดไปแล้วนี้ ปัจจุบันได้สร้างยอดขายไปแล้ว 80 กว่า % โดยมีจำนวนห้องชุดทั้งหมด 316 ยูนิต มีสัดส่วนลูกค้าที่เป็นชาวไทย 50% และชาวต่างชาติ 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮ่องกง, สิงคโปร์และไต้หวัน ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายของเราให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นที่น่าพอใจ นอกจากทำเลที่เป็น Top destination ระดับต้นๆ ของเมืองไทยแล้ว ก็คือความเป็นมิกซ์ยูสที่ทันสมัย สามารถตอบสนอง ทุกความต้องการของผู้พักอาศัย รวมไปถึงความสมบูรณ์แบบด้านสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้อย่างครบครัน สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ที่มีขนาดพื้นที่ 72 – 106 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ประมาณ 20 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาเริ่มต้นที่ 270,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งมีจำนวน 220 ยูนิต หรือจะเป็น แบบ เพ้นต์เฮ้าส์ 8 ยูนิต ซึ่งเป็น ดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ (250- 360 ตารางเมตร) จำนวน 6 ยูนิต และเพนท์เฮ้าส์ (290 – 300 ตารางเมตร) จำนวน 2 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันโครงการขายไปแล้วเหลือเพียง 20% เท่านั้น และมั่นใจว่าจะปิดการขายโครงการทั้งหมดได้ในไตรมาสแรกของ ปี 2019