เอ่ยชื่อ ส.ขอนแก่น คงไม่มีใครไม่รู้จักเพราะบริษัทแห่งนี้ก่อตั้งมายาวกว่า 3 ทศวรรษ จากอุตสาหกรรมพื้นบ้านขยายกิจการต่อยอดออกไปมากมายท้ังการขยายฐาการผลิตรองรับตลาดโลก ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน ภายใต้การบริหารของ 2 ทายาท ส. ขอนแก่น นั่นคือ จรัสภล และจรัญพจน์ รุจิราโสภณ บิ๊กบอสทายาท ส.ขอนแก่น
ซึ่งแน่นอน งานใหญ่อย่าง THAIFEX-World of Food Asia 2018 ส.ขอนแก่นไม่ยอมตกขบวนนำทีมโชว์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ ส.ขอนแก่น ร่วมอวดโฉมภายในงาน โดยเฉพาะไฮไลต์ปีนี้ กับการเปิดตัวหมูยอโบราณและหมูยอโบราณสูตรเห็ดหอม ที่จุดพลุสร้างมิติใหม่ให้แก่วงการอาหารพื้นเมืองของไทย ซึ่งเป็นโปรดักซ์แชมเปี้ยน เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอาหารพื้นเมืองในไทยตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
นอกจากการหันมารุกอาหารพื้นเมืองอันขึ้นชื่อของส.ขอนแก่น ได้เเปิดตัวผู้บริหารใหม่ที่เข้ามารับผิดชอบโดยตรงซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็น จรัญพจน์ รุจิราโสภณ มาพร้อมกับแนวคิด ‘เพราะทุกคนควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด’ ตอกย้ำผู้นำตลาดอาหารพื้นเมือง
จรัญพจน์ รุจิราโสภณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและการขาย บริษัท ส.ขอนแก่น ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า แผนดำเนินงานในปีนี้จะมุ่งสร้างการเติบโตให้แก่ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อหมูหรือผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมือง ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานและธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจผลิตภัณพ์อาหารพื้นเมืองภายใต้แบรนด์ ส. ขอนแก่น ที่ในปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มธุรกิจดังกล่าวมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่ทำสัดส่วนยอดขายสูงสุด อีกทั้งบริษัทฯ มองว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองมีศักยภาพและโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าแบบดั้งเดิมและห้างค้าปลีกสมัยใหม่
การกลับมาเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองในครั้งนี้ มีเป้าหมายต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดที่มีมาตลอดกว่า 30 ปี จากคุณภาพสินค้าที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค เนื่องจากมีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ประกอบกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถผลักดันยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
“ที่ผ่านมา เรามุ่งต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านยอดขาย เช่น อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานหรือกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นในปีนี้เราจึงหันกลับมาให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองมากขึ้น เพื่อตอกย้ำแบรนด์ ส.ขอนแก่น ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดอาหารพื้นเมืองมายาวนานกว่า 30 ปี” นายจรัญพจน์ กล่าว
รักษาการประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและการขาย SORKON กล่าวว่า แนวทางการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองภายใต้แบรนด์ ส.ขอนแก่นในปีนี้ จะใช้แนวคิด ‘เพราะทุกคนสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด’ โดยมุ่งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อปรับสินค้าทุกประเภทมุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุกด้าน ทั้งรสชาติความอร่อย กลิ่นและเนื้อสัมผัส ราคาที่จับต้องได้ ความสะดวกในการบริโภค รวมถึงปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงาม เพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริโภคที่ไว้วางใจแบรนด์ ส.ขอนแก่น มากว่า 30 ปี
ทั้งนี้ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘หมูยอโบราณสูตรเห็ดหอม’ ที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดดังกล่าว โดยใช้เนื้อหมู 100% เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตผสมกับวัตถุดิบแบบบดหยาบ เพื่อเพิ่มสัมผัสการเคี้ยวให้ได้รสชาติ พร้อมเห็ดหอมที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับเนื้อหมูยอ จึงได้สัมผัสของเนื้อและกลิ่นที่ดีที่สุด นำมาคลุกเคล้าน้ำปลาแบบฉบับโบราณ เพื่อสร้างประสบการณ์ในการรับประทานหมูยอสูตรโบราณที่เป็นเลิศในด้านรสชาติให้แก่ลูกค้า โดยหลังจาก ส.ขอนแก่น ได้วางจำหน่ายสินค้าดังกล่าวผ่านช่องทางจำหน่ายร้านสะดวกซื้อเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก
ทั้งนี้ หลังจากความสำเร็จดังกล่าว มีแผนงานที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองของไทยต่อไป
ส.ขอนแก่น มีประวัติความเป็นที่น่าสนใจไม่น้อย ระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผู้บุกเบิกรุ่นพ่อ “เจริญ รุจิราโสภณ” พาแบรนด์ “ส.ขอนแก่น” จากธุรกิจอาหารเนื้อสัตว์แปรรูป จนปัจจุบันกิจการเติบใหญ่ระดับบริษัทมหาชน ขยายกิจการหลากหลาย ภายใต้แบรนด์ต่างๆ หลายสิบแบรนด์
เส้นทางชีวิตของ เจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) น่าสนใจอย่างมาก จากอดีตลูกน้องเจ้าสัวซีพี มากว่า 10 ปีในฐานะผู้บริหารกิจการไก่ย่าง 5 ดาว และไส้กรอกซีพี ทำให้ได้รับการถ่ายทอดความรู้จากผู้ยิ่งใหญ่แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์มาล้นเหลือ
หลังจากสะสมประสบการณ์พร้อมเมื่อปี พ.ศ. 2527 เขาก้าวตามฝันของตัวเองที่อยากเป็น “เถ้าแก่” เริ่มก่อตั้งกิจการเล็กๆ ชื่อว่า “ส.ขอนแก่น” โดยไปรับซื้อเนื้อหมูแปรรูป เช่น กุนเชียง หมูแผ่น ฯลฯ จากเจ้าดังเมืองขอนแก่น แล้วมาขายในกรุงเทพฯ จนต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ก็สร้างโรงงานผลิตหมูยอ, กุนเชียง, ไส้กรอกอีสานของตัวเอง
เจริญบอกด้วยว่า การสร้างแบรนด์นั้นไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว อาจจะลงทุนสูง จ้างมืออาชีพมาวางแผน หรือใช้วิธีการสมัยใหม่ประหยัดต้นทุน เช่น สังคมออนไลน์ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และสภาพแวดล้อมของแต่ละกิจการ สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ลูกค้าเกิดความจดจำ และเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม การสร้างที่ว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือ “การรักษาแบรนด์” หากไม่สามารถทำได้ธุรกิจจะถึงจุดจบทันที ในทางตรงกันข้าม หากรักษาคุณภาพจนลูกค้าเชื่อมั่นได้ นั่นเท่ากับธุรกิจจะเกิดความยั่งยืน
ประธานเครือ ส.ขอนแก่นยังกล่าวถึงเคล็ดลับส่วนตัวที่ยึดถือมาตลอดในการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร หากทำได้ 5 ข้อดังนี้ ธุรกิจอาหารประสบความสำเร็จแน่นอน คือ 1. รสชาติอร่อยสม่ำเสมอ 2. รูปลักษณ์น่ากิน 3. สีสันดึงดูด 4. กลิ่นหอม เย้ายวน และ 5. เนื้อสัมผัส เมื่อกัดลงไปแล้วต้องได้ความประทับใจ
ต้องจับตาดูว่า การหันมาโฟกัสธุรกิจดั้งเดิมอย่างอาหารพื้นเมืองที่ผู้เป็นพ่อบุกเบิกเอาไว้นั้นของ ส ขอนแก่นในครั้งนี้จะมีนัยยะสำคัญอะไรหรือไม่
