Biznews

“โอช้อปปิ้ง” พร้อมลุยไฟ

ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจโฮมช้อปปิ้งชั้นนำของเมืองไทยสำหรับ โอช้อปปิ้ง หรือชื่อเต็มๆ ว่า GMM CJ O shopping (บริษัท จีเอ็ม เอ็ม ซีเจ โอ ช้อปปิ้ง จำกัด) หรือ โอ ช้อปปิ้ง ก่อตั้งเมื่อปี 18 มิถุนายน 2555 ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับทีวีโฮมช้อปปิ้ง เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และ CJ O Shopping หนึ่งในบริษัทในเครือซีเจกรุ๊ป หรือ CJ Corporation (Cheil Jedang Corporation) โดยมีเครือข่ายธุรกิจ 4 ด้าน คือ Food & Food service ( อาหารและบริการด้านอาหาร) Bio & Pharma ( ยาและเทคโนโลยีชีวภาพ) Homeshopping & Logistic ( โฮมช้อปปิ้งและขนส่งครบวงจร) แ ละ Entertainment & Media ( สื่อและบันเทิงครบวงจร)

เป็นเวลากว่า 5 ปีที่บริษัทแห่งนี้ดำเนินธุรกิจซึ่งต้องถือว่าประสบความสำเร็จไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ เห็นได้จากยอดขายระดับพันล้านบาทภายในระยะเวลาไม่กี่ปีก็ถือเป็นเครื่องการันตีได้ระดับหนึ่งแม้ว่าการแข่งขันในตลาดโฮมช้อปปิ้งบ้านเราจะดุเดือดเลือดพล่านก็ตาม

อย่างไรก็ตามด้วยปัจจัยนานัปการที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่ยากต่อการควบคุมทำให้ทุกธุรกิจเรียกได้ว่าสะดุดจนถึงหยุดอยู่กับที่ก็ว่าได้ รวมทั้งโอช้อปปิ้งที่ยอมรับอย่างไม่อายว่าในปีที่ผ่านมาผลประอบการของบริษัทไม่เติบโตคือเท่ากับปีก่อนหน้า

ซอง นัก เจ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ซีเจ โอ ช้อปปิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง “โอช้อปปิ้ง” บอกว่า ในช่วง 9 เดือนแรกต้องยอมรับว่าสภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว หรืออยู่ในระดับทรงถึงทรุด ทำไห้ต้องปรับเป้าหมายจากเดิมที่ตั้งไว้ตลอดปี 2560 โต 15-20% เปลี่ยนมาเหลือเพียง 10% จากการปิดยอดปี 2559 ประมาณ 1,700 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยตรงบวกกับไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย

สำหรับหมวดสินค้าที่มีผลกระทบมากสุดในปีนี้ทีทำให้ต้องปรับเป้าหมายยอดขาย มี 2 กลุ่มคือ กลุ่มไอที เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เคยสนใจซื้อโทรศัพท์ราคาถูกหรือโลว์เอนด์ เปลี่ยนไปนิยมซื้อแบรนด์ราคาแพงขึ้น แม้ว่ากำลังซื้อจะไม่ค่อยดี แต่ผู้บริโภคค่อนข้างตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าระดับไฮเอนด์กว่าเดิม กลุ่มที่ 2 คือ ส่วนผลิตภัณฑ์สุขภาพและกีฬา เนื่องจากคนไม่มีอารมณ์ จากเดิมมีสัดส่วนในพอร์ตของบริษัทที่ 15% ลดลงเหลือ 10% ขณะที่สินค้ากลุ่มดาวรุ่งสำหรับปีนี้มีหลายรายการ เช่น เครื่องสำอาง ชุดชั้นในสตรี สินค้าตกแต่งภายในบ้าน และสินค้าแฟชั่น

ในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2560 โอช้อปปิ้ง เร่งเครื่องเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีให้เป็นไปตามเป้าหมายด้วยการนำสินค้าที่ขายดีในแต่ละช่วงตลอดปีที่ผ่านมา จัดแคมเปญ เบสท์ ออฟ เดอะ เบสท์ ด้วยการนำสินค้าอาทิ ชุดกระชับสัดส่วน ชุดชั้นใน อุปกรณ์ตกแต่งบ้านขนาดเล็ก มาจัดโปรโมชั่นร่วมกัน ในราคาคุ้มค่า คาดการณ์ว่าจะกระตุ้นยอดขายปลายปีได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดโฮมช้อปปิ้งปีนี้น่าจะเติบโตราว 10% หรือมีมูลค่าประมาณ 10,600 ล้านบาท เนื่องจากยังมีสินค้าบางกลุ่มช่วยสนับสนุนอยู่บ้าง ส่วนสถานการณ์ปีหน้าคาดว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากมีทั้งผู้ประกอบการรายเดิมกลับเข้ามา และหน้าใหม่ที่สนใจธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง
เพื่อรองรับการแข่งขันดังกล่าว โอช้อปปิ้งได้เตรียมการรองรับไว้หลายด้าน โดยเน้นการลงทุนเมื่อเห็นโอกาส ซี่งในปีหน้าจะทำการปรับปรุงระบบไอทีหลังบ้านเพื่อให้เดความรวดเร็วและรองรับจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น ภายใต้งบลงทุนราว 50 ล้านบาท อีกทั้ง จุดแข็งของโอช้อปปิ้งคือ คอนเทนต์ ซึ่งขณะนี้มีสตูดิโอเพียง 1 แห่งไม่สามารถรองรับได้ จึงมีแผนที่จะขยายสตูดิโอแห่งใหม่ในพื้นที่เดิม ภายใต้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โปรเจคจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างในปีหน้า

ด้านธุรกิจก็ต้องเดินหน้าต่อเนื่อง แต่ในด้านกิจกรรมเพื่อสังคม โอช้อปปิ้งก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเริ่มทำตั้งแต่ปี 2013 ที่ทำการเปิดสถานีทีวีโฮมช้อปปิ้ง โดยเริ่มจากการเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันเทควันโดซึ่งจัดโดยโค้ชเช ยอง ซอก ซึ่งไม่เพียงแต่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แต่ยังคงให้ความสำคัญและสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

จุดเริ่มต้นของกิจกรรมดังกล่าวมาจากโค้ชเช หัวหน้าโค้ชเทควันโดทีมชาติไทย เป็นเพื่อนรักสัญชาติเดียวกับซอง นักเจ ซีโอโอ โอช้อปปิ้ง ทำให้โค้ชเชกลายเป็นบุคคลสำคัญในโครงการคืนกำไรสู่สังคมที่โอช้อปปิ้งจัดขึ้น

โดยภารกิจหลักของโค้ชเชคือการเดินหน้าสานฝันและเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ให้กับเยวชนโดยเป็นคนต้นเรื่องพาชาวโอช้อปปิ้งขึ้นดอยไปยังโรงเรียนบ้านปางแดง อ เชียงดาว จ เชียงใหม่แจกจ่ายเสื้อกันหนาว อุปกรณ์การเรียนพร้อมทั้งปลุกปั้นนักเทควันโดลงสู่สนามของเส้นทางนักเทควันโดอย่างแท้จริง โดยร่วมกับ วิว เยาวภา บุรพลชัย รวมทั้งยังได้พาน้องๆ ไปเกาะขอบสนามส่งแรงเชียร์ทัพนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยในศึกซีเกมส์ ประเทศมาเลเซียที่ผ่านมาด้วย ถือเป็นครั้งแรกกับประสบการณ์ต่างแดนของน้องๆ และยังเป็นกิจกรรมเพื่อคืนกำไรสู่ชุมชนและสังคมครั้งสำคัญของโอช้อปปิ้งอีกด้วย

นั่นคือ วิถีการเอาตัวรอดในสถานการณ์หลังผิงฝาเช่นทุกวันนี้และทุกคนมองไปที่ปลายอุโมงค์ที่คาดว่าน่าจะมีแสงสว่างเล็ดลอดออกมาให้เห็นบ้าง เช่นเดียวกับโอช้อปปิ้งที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้องค์กรถึงฝั่งฝัน ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสให้ได้มีโอกาสกรุยทางสู่เส้นทางนักกีฬา อาชีพในฝันของใครหลายคน

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: