ในแวดวงร้านอาหารสุกี้ ชื่อชั้นของ COCA น่าจะได้รับการการันตีถึงรสชาติความอร่อยไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ ในตลาด ต้นกำเนิดของรสชาติสุกี้ที่มีชื่อเสียงของ COCA เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2500 จากห้องอาหารจีนกวางตุ้งขนาด 20 ที่นั่ง ที่ก่อตั้งโดยคุณศรีชัย พันธุ์เพ็ญโสภณและคุณปัทมา ผู้ซึ่งเป็นภรรยาคู่ใจ ได้ร่วมกันสร้างและวางรากฐานให้ภัตตาคารประสบความสำเร็จตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
หลังจากนั้นไม่นาน โคคา ได้ขยายกิจการและย้ายจากถนนเดโช ไปอยู่ที่ซอยทานตะวัน ถนนสุรวงศ์ จุดเริ่มต้นจากภัตตาคาร 20 ที่นั่งในวันแรก ได้ขยายมาสู่ภัตตาคารขนาด 800 ที่นั่ง โดยเป็นภัตตาคารแห่งแรกที่นำการปรุงอาหารแบบสุกี้เข้ามาเผยแพร่และสร้างชื่อเสียงในประเทศไทย
ด้วยการพัฒนาและการมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารรูปแบบใหม่ของ COCA ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบในการปรุงสุกี้ได้หลากหลายชนิดตามใจชอบ เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล และผักสดต่างๆ ที่สามารถแยกเป็นจานเล็กๆ ตามต้องการแทนการจัดจานและเสิร์ฟรวมมาเป็นชุดใหญ่ๆ ในแบบดั้งเดิม จึงเป็นจุดขายสำคัญ ที่สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า และยังช่วยสร้างชื่อเสียงให้ COCA ได้กลายเป็นสุกี้ต้นตำรับและรู้จักดีในหมู่คนรักสุกี้ทั้งไทยและต่างประเทศตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“COCA” แปลว่า “ความอร่อย” เป็นคำถูกดัดแปลงมาจากภาษาจีนกลางที่ออกเสียงว่า “เคอโคว์ (Kekou)” ซึ่งมีความหมายว่า “เอร็ดอร่อย” และจากสำเนียงกวางตุ้งที่ออกเสียงว่า “หอเห่า (HouHào) จึงกลายมาเป็นชื่อ “โคคา COCA” ที่กระชับและจำง่าย ซึ่งรวมความหมายว่า “ความอร่อยที่น่ารับประทาน” โดยคนเอเชียทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น และชาวต่างชาติในแถบประเทศอื่นๆ ยังสามารถจดจำชื่อ โคคา และออกเสียงแห่งความอร่อยนี้ไปด้วยกันได้อย่างง่ายดาย
COCA ยุคใหม่
เมื่อธุรกิจถูกส่งต่อ คุณพิทยา พันธุ์เพ็ญโสภณ ลูกชายคุณศรีชัยและคุณปัทมา ได้เข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัวในปี พ.ศ. 2527 ด้วยวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ จึงเปลี่ยนจากภัตตาคารโคคา เข้าสู่การบริหารแบบบริษัทจดทะเบียน ด้วยชื่อบริษัท COCA Holdings International Co., Ltd. เพื่อรวมการบริหารให้มีทีมสนับสนุนเป็นส่วนกลางรองรับการดำเนินงานของแต่ละร้านในเครืออย่างเป็นระบบ
ความสำเร็จตลอดมาของ COCA เป็นแรงพลักดันช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้โคคาได้ขยายกิจการไปสู่สาขาใหม่ๆ อีกมากมาย เช่น สุขุมวิท 39 ไทม์สแควร์ เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า พหลโยธิน สยามเซ็นเตอร์ และสาขาชายหาดพัทยา รวมทั้งยังขยายไปสู่สาขาต่างประเทศในปี พ.ศ. 2530 โดยสาขาแรกในต่างประเทศเริ่มที่สิงคโปร์ ตามด้วยญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน ลาว พม่า เกาหลีใต้ และจีนตามลำดับ และในวันนี้ COCA ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องสู่ความเป็นสากลด้วยรูปแบบแฟรนไชส์
ซึ่ง COCA Holdings ได้เพิ่มแนวความคิดในการดำเนินงาน เช่น Kroissant House ร้านเบเกอรี่แบบยุโรปที่มีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ พร้อมกับเปิดร้านอาหาร Mango Tree ซึ่งเป็นสถานที่ดีเยี่ยมสำหรับอาหารไทยแท้, ร้าน Bo Tan Tei มีห้องอาหารญี่ปุ่นแบบคลาสสิก, ร้าน Nika-i ให้บริการอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นในบรรยากาศร่วมสมัย และได้ขยายสู่การเปิดโรงงาน COCA Foods International สำหรับแปรรูปผลิตภัณฑ์แช่แข็งและบรรจุหีบห่อ พร้อมจัดส่งไปยังร้านอาหารทุกสาขาในเครือ ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน COCA ดำเนินธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นเข้าสู่รุ่นที่ 3 เรียบร้อยแล้ว โดยสาขาล่าสุดตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลเวิล์ด ภายใต้งบลงทุน 15 ล้าน เมคโอเวอร์ โคคา สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสาขาแรกของ COCA 3rd ที่พร้อมให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเปิดตัวภายใต้การปรับโฉมใหม่ครั้งแรกของโคคา โดยเน้นการมีส่วนร่วมในการรักษ์โลกอย่างยั่งยืน (COCA Sustainability) ตามแนวคิดหลักของผู้บริหารยุคใหม่ ที่ได้รับความร่วมมือจากบริษัทลูกอย่าง โคคา บูทีค ฟาร์ม อย่างเต็มกำลัง พร้อมเปิดให้บริการ อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2018 นี้
คุณแนท นัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ นักธุรกิจสาวรุ่นใหม่ ทายาทธุรกิจร้านอาหารชื่อดัง โคคา สุกี้ ขึ้นบริหารร้านในเครือโคคาต่อจากคุณพิทยา เป็นรุ่นที่ 3 อย่างเป็นทางการ ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ (COO) บริษัท โคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พร้อมเฉลิมฉลองเมนูโคคา ด้วยเมนูสไตล์กวางตุ้งสูตรต้นตำรับกว่า 60 ปี พร้อมรับกับนโยบายการปรับปรุงสาขา ได้ทุ่มงบกว่า 15 ล้านบาท เมคโอเวอร์ โคคา สุกี้ เป็นสาขาแรกของ COCA 3rd Generation ทิ้งภาพลักษณ์เดิมพร้อมเดินหน้าปั้นแบรนด์ โคคา ด้วยโคคาโฉมใหม่ ที่มีการตกแต่งฉีกจากรูปแบบโคคาร้านเดิมๆอย่างที่คาดไม่ถึง ทันสมัยเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ แต่ยังคงคอนเซปหลักที่เน้นการมีส่วนร่วมในการรักษ์โลกอย่างยั่งยืนตามแนวคิดของผู้บริหารรุ่นใหม่
“สมัยก่อน .. คนทานอาหารนอกบ้าน เพราะคิดถึงคุณภาพและความอร่อยของอาหาร
มากกว่าความสวยงามและความสะดวกสบายภายในร้านด้านอื่นๆ
แต่สมัยนี้ .. อาหารอร่อยอย่างเดียวคงไม่พอแล้ว สถานที่ต้องสวยด้วย ความสะดวกสบายต้องมี
ความอร่อยต้องมา และถ้าได้บรรยากาศดี บริการเด่น นั่งทานแล้วไม่รู้สึกว่าต้องเร่งรีบ
ก็น่าจะทำให้คนตอบรับกับร้านโคคารูปแบบใหม่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์นี้ได้ไม่ยาก”
เจน 3 ยืนยันว่า ยังคงส่งต่อความอร่อยของสุกี้กวางตุ้งในตำนาน โคคา สุกี้ ที่กล้าการันตีว่า โคคา เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวของสูตรสุกี้ต้นตำรับที่อร่อยที่สุด โดยเฉพาะซอสสุกี้ที่กล้าพูดว่า โคคา เป็นที่สุด ทั้งในด้านวัตถุดิบที่ผลิตและควบคุมคุณภาพโดย โคคา ฟู๊ดส์ มีกระบวนการผลิตและคัดสรรส่วนผสมและความอร่อยที่ลงตัว เช่น เกี๊ยวปลา ลูกชิ้นกุ้ง ปลาทรงเครื่อง ลูกชิ้นปลาหมึก และอื่นๆอีกมากมาย ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาปรุงเสิร์ฟสำหรับลูกค้า โคคา สุกี้ โดยเฉพาะ
ความอร่อยเด็ดของโคคาไม่ได้หยุดแค่ที่ประเทศไทย แต่ยังมีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างแดน ทั้งสูตรความอร่อยของน้ำซุปต้นตำรับที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะวัตถุดิบจากธรรมชาติตามฤดูกาลเพื่อสนับสนุนเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมุ่งมั่นปฏิบัติตามความตั้งใจในแนวคิดของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน (COCA Sustainability) โดยเชฟของโคคาตั้งใจเลือกนำมาประยุกต์ใช้กับสูตรเมนูของร้าน นอกจากนี้ โคคา ยังมีเมนูติ่มซำปั้นสด ที่ภูมิใจนำเสนอภายใต้แนวคิดที่ต้องการถ่ายถอดความสด อร่อย ของติ่มซำสูตรต้นตำรับฮ่องกง โดยเชฟจากฮ่องกงที่เราเชิญมาร่วมปรับปรุงสูตรให้ทุกท่านได้สัมผัสและลิ้มรสความสดอร่อย โดยไม่ต้องบินไปทานถึงฮ่องกง
นอกจากนี้ ด้วยแนวคิดและคอนเซปหลักของร้านโคคารูปแบบใหม่นี้ ภายใต้คอนเซ็ป “60’s is the new 20’s” เน้นความมินิมอล พื้นที่กว้างขวาง สามารถรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งลูกค้ากลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือคนโสด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ COCA Community ในการนี้ โคคา จึงร่วมคิดค้น พัฒนา และติดตั้งอุปกรณ์ที่มีส่วนช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดทุกการติดต่อ เพื่อให้ทุกวินาทีของคุณถูกใช้ไปอย่างมีค่า ด้วยเทคโนโลยีการชาร์จแบตฯโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะอาหาร ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะรับประทานอาหารได้อย่างสะดวกสบายซึ่ง โคคา ได้จัดไว้รองรับสำหรับทั้งที่ชาร์จแบบไร้สาย (wireless charger) และที่ชาร์จแบตฯแบบหัวต่อยูเอสบี (USB) พร้อมติดตั้งประจำทุกโต๊ะภายในร้านใหม่แห่งนี้ และเมื่อลูกค้าทานเสร็จ ก็สามารถเดินชอปปิ้ง เดินทางท่องเที่ยวต่อหรือเข้าประชุมในเวลาถัดไปได้อย่างไร้กังวล
พิเศษสุดสำหรับลูกค้าในกลุ่มสังคมไร้เงินสด ด้วยการเร่งรับนโยบายพร้อมปรับรูปแบบสาขาใหม่ให้ตอบรับนวัตกรรมทางการเงินยุคดิจิทัล เพื่อรองรับการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการชำระค่าสินค้าผ่านระบบแอพลิเคชั่นที่หลากหลาย โดยเฉพาะช่องทางการชำระเงินผ่านระบบ QR Scan บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ทันที ทั้งยังรองรับการให้บริการของธนาคารในประเทศไทย อาทิเช่น ธนาคารกสิกร ไทยพาณิย์ ฯลฯ และการให้บริการของธนาคารต่างประเทศ อาทิ ระบบอาลีเพย์ วีแช็ทเพย์ เพื่อยกระดับและก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความสะดวก รวดเร็ว เเละมีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งชาวทั้งไทยและชาวต่างชาติ ทั้งยังช่วยลดทรัพยากรธรรมชาติและช่วยตอบโจทย์เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ภายในงานนี้ยังมีการเปิดตัว โคคา บูทีค ฟาร์ม อย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของธุรกิจร้านอาหารในเครือโคคา ที่มุ่งเน้นการผลิตสินค้าออร์แกนิคออกสู่ตลาด โดยเฉพาะผลผลิตประเภทพริก ซึ่งโคคาใช้พริกที่เกิดจากการดูแลบ่มเพาะในฟาร์มกว่า 10 สายพันธุ์ นำมาทดลองและพัฒนาเพื่อป้อนสู่กระบวนการผลิตซอสสุกี้ โคคา ที่เน้นคุณค่าทางโภชนาการและมีสีสันต์ตรงตามความต้องการของตลาดอย่างมีคุณภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
นี่คือผลงานที่ต้องรอการพิสูจน์ฝีมือทายาทเจน 3 โคคาว่าจะเจ๋งเหมือนสมัยรุ่นคุณพ่อทำไว้หรือไม่
