Real Estate

“แสนสิริ” เปิดตัว “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” คอนโดเพื่อคนรักสุขภาพ

จากกระแสสุขภาพที่มาแรงชนิดตลาดอื่นๆ ต้องยอมหลีกทางทำให้ทุกธุรกิจหันมาให้ความสนใจพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุค 4.0 รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ล่าสุด แสนสิริ เล็งเห็นโอกาสเติบโตเปิดคอนโดฯแนวใหม่เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพคอนเซ็ปท์ใหม่ ตอบโจทย์เทรนด์การดูแลสุขภาพที่เติบโตขึ้นทั่วโลกด้วยการปั้นไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยและคอมมูนิตี้เพื่อส่งเสริมสุขภาพดีแบบยืนยาวทั้งภายนอกและภายในครบทุกมิติ

“แสนสิริ” “โตคิว คอร์เปอเรชั่น” ร่วมด้วย “โรงพยาบาลสมิติเวช” ยักษ์ใหญ่ผู้นำ 3 ธุรกิจ ด้านอสังหาฯในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น และโรงพยาบาลระดับนานาชาติชั้นนำในไทยผนึกกำลังประกาศพันธมิตร เดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” (Wellness Residence) ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ครั้งแรกในไทยพัฒนาขึ้นจากการศึกษาอย่างครอบคลุม เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพคอนเซ็ปท์ใหม่ พร้อมรับรองมาตรฐานระดับโลก WELL Certification เปิดมิติใหม่แห่งการใช้ชีวิตด้วยแนวคิดการส่งเสริมสุขภาพดีในทุกๆด้านจากความต้องการของคนทุกวัย มูลค่าโครงการกว่า 2,400 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑา ครบครันด้วยการสร้างคอมมูนิตี้และกิจกรรมไลฟ์สไตล์แห่งการอยู่อาศัยจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจที่เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ มุ่งพลิกโฉมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีในไทยสอดรับเทรนด์เวลล์เนสโลกและในไทยที่เติบโตขึ้น

นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน คนเราใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่าเมื่อเทียบกับเวลาในชีวิต และพร้อมจะจ่ายในสิ่งที่ต้องการเพื่อการดูแลสุขภาพ จากบ้านที่เราอาศัยสู่การใช้ชีวิตที่หลากหลายรวมถึงการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้น การได้อยู่ในบ้านที่ถูกสร้างเพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดี จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกวัย จากรายงานการศึกษาเรื่องที่อยู่อาศัยเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Build Well to Live Well 2018) ที่สถาบันสุขภาพโลก (Global Wellness Institute) จัดทำขึ้นในปีนี้ พบว่านับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา การพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มเวลล์เนสเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีทั่วโลกมีมูลค่าตลาดประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท หรือ 134,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโต 6.4% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมการก่อสร้างของโลกที่เติบโตที่ 1.5% และสามารถทำกำไรเฉลี่ยประมาณ 10-25% โดยปัจจุบัน มีโครงการและชุมชนที่เน้นการสร้างไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพดีประมาณ 740 แห่งทั่วโลก

แสนสิริ, โตคิว กรุ๊ป และ สห โตคิว คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือกันโดยมีสัดส่วนการลงทุน 70:29:1 ตามลำดับ โดยโรงพยาบาลสมิติเวชจะร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์มอบบริการด้านสุขภาพเพื่อสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็น “Well-Cared” ซึ่งสรรหาโครงการที่อยู่อาศัยที่จะทำให้ตนเองสามารถรักษาสุขภาพดีที่ยืนยาว รวมทั้งมีเพื่อน มีสังคมที่มีความต้องการอย่างเดียวกัน

มร. ชินจิ สึยามะ ผู้จัดการทั่วไป และตัวแทนในประเทศไทย บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวว่า เป้าหมายของเรา คือ การสร้างสรรค์ “สิ่งแวดล้อมที่สวยงาม” มีความอบอุ่น เพื่อการใช้ชีวิตที่ดี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงชีวิตของผู้คน (Sustainable Living) ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมาก คือ การสร้าง Business model หรือการผสานองค์ความรู้ที่เราเรียกว่า “One Tokyu” เข้ากับความรู้และประสบการณ์กับธุรกิจในเครือ บริษัทได้นำความเชี่ยวชาญการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงการสร้างสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ใช้สอยและรองรับการใช้ชีวิตได้จริง ซึ่งถือเป็นทักษะสำคัญจากทีมสถาปนิกของโตคิว กรุ๊ป ทั้งยังได้นำการออกแบบที่สอดคล้องกับสภาพร่างกายมาใช้ในการออกแบบพื้นที่ที่อยู่อาศัย ตลอดจนข้อมูลจากการศึกษาตลาดและประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงสุขภาพมาให้ได้สัมผัส ซึ่งจะยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่และเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่อาศัยในโครงการอย่างเต็มที่

ด้าน พ.ญ. สุรางคณา เตชะไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า ข้อมูลจากทีดีอาร์ไอ เปิดเผยผลประมาณการค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของไทยในอีก 15 ปีข้างหน้าตามหลัก OECD จะมีค่าประมาณ 4.8 – 6.3 แสนล้านบาท นอกจากนี้ การวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยทางพันธุกรรมของคนมีผลประมาณ 20% ต่อสุขภาพของเรา ส่วนที่เหลืออีก 80% นั้น เป็นผลจากการใช้ชีวิตและปัจจัยภายนอก เช่น บ้าน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งล้วนแต่มีผลโดยตรงต่อสุขภาพ พฤติกรรม วิถีชีวิต และอารมณ์ ดังนั้น ในฐานะผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำ เรามุ่งเน้นหลักการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ด้วยการสร้างคุณค่าต่อผู้รับบริการ สังคมและประเทศผ่านคอนเซ็ปท์ “เราไม่อยากให้ใครป่วย” โดยใช้นวัตกรรมให้ผู้รับบริการ รู้เท่าทัน-สกัดกั้น-วางแผน เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแบบองค์รวม (Holistic living)เนื่องมาจากปัญหาของผู้ป่วยทั้งกายและใจ นอกจากนี้ การใช้นวัตกรรมดูแลสุขภาพ Precision Medicine เทคโนโลยีตรวจวิเคราะห์ระดับยีนเฉพาะบุคคล สามารถเจาะลึกได้ทุกโรค เพื่อบ่งบอกความเสี่ยงการเกิดโรคได้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่ในครรภ์ ยังสามารถช่วยสกัดกั้นโรคต่างๆ ตั้งแต่ก่อนคลอด หรือแรกเกิด ทำให้ทุกชีวิตเกิดมาอย่างมีคุณภาพและปลอดโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่เริ่มแรก สมิติเวชมีความตั้งใจเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้คนไม่เจ็บป่วย อันจะช่วยลดการเจ็บป่วยจากโรคที่เกิด ลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษา Healthcare cost โดยรวมลดลง รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้นทุกปีจากการที่ผู้ป่วยมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อ GDP (Gross Domestic Product) ของประเทศในการพยุงเศรษฐกิจชาติเมื่อประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น และนี่คือการสร้าง “องค์กรแห่งคุณค่า” (Organization of Value)

“นอกจากนี้จากการที่ปัจจุบันผู้บริโภคควรเริ่มตระหนักถึงโครงการที่อยู่อาศัยที่เข้าใจและให้ความสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของเราเป็นหลัก เพื่อช่วยให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เราจึงเห็นว่ามีโอกาสอีกมากในตลาดที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพสูงและให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี และความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การร่วมเป็นพันธมิตรกับแสนสิริและโตคิว คอร์เปอเรชั่น จะเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้ของเราอีกทางหนึ่ง นอกเหนือไปจากการขยายธุรกิจด้านบริการทางการแพทย์ที่เป็นธุรกิจหลักของเรา”

โครงการคอนโดมิเนียมสำหรับคนรักสุขภาพแห่งใหม่นี้ เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 อาคาร รวมมูลค่า 2,400 ล้านบาท ที่นอกจากจะส่งเสริมการใช้ชีวิตที่ให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพแล้ว ยังจะเป็นการสร้างชุมชน “Wellness Community” ที่จะช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพในองค์รวมได้อย่างครบวงจร โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ บนถนนกรุงเทพกรีฑา ทำเลทองสำหรับการอยู่อาศัยและมีสิ่งแวดล้อมที่สงบ และสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์โดยรอบได้อย่างง่ายดาย การออกแบบโครงการเป็นไปตามแนวคิดที่เน้นการเติมเต็มทุกมิติในการใช้ชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความต้องการทางกายภาพ จิตใจ จิตวิญญาณ สิ่งแวดล้อม และสังคม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพรีเซลล์ได้ในปี 2562 นี้

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: