Biznews

เทียบหมัดต่อหมัด “วันสยามกสิกรไทย ” ปะทะ “SCB M”

ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการช้อปปิ้งแบบไร้เงินสดก็ว่าได้ เมือ่เทียบกับต่างประเทศที่ใช้ระบบไร้เงินสดเกือบ 100% ขณะที่บ้านเรากำลังคืบคลานในอีกไม่ช้านี้

เมื่อการช้อปปิ้งแบบไร้เงินสดก็ต้องมีการผสานอย่างน้อย 2 อุตสาหกรรมนั่นคือ แบงก์และรีเทล ในช่วงที่ผ่านเราจึงได้เห็นการออกมาประกาศความร่วมมือกันระหว่างค้าปลีกและแบงก์อย่างคึกคัก


กสิกรไทย ผนึกกำลัง สยามพิวรรธน์ออก “วันสยาม”

สยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทย ประกอบด้วย สยาม , พารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่ได้รวมพลังเป็น “วันสยาม” (OneSiam) ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายภายในวันสยาม แบ่งเป็นสยามพารากอน 200,000 – 250,000 คนต่อวัน และ สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่ วันละประมาณ 80,000 – 100,000 คนต่อวัน จนกลายเป็นโกลบอลเดสติเนชั่นที่ครองใจนักช้อปทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นสถานที่ที่มีคนถ่ายภาพแล้วแชร์บนอินสตาแกรมมากที่สุดในโลกเป็นอันดับหนึ่งในปี 2556 และติดอันดับสถานที่เช็คอินยอดนิยมในโซเชียลมีเดียมาโดยตลอด

นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ให้เหตุผลถึงการเปิดตัวบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทยว่า เป็นหนึ่งในกลยุทธ์และแผนการตลาดของสยามพิวรรธน์ในปีนี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นสัญลักษณ์แห่งการนำเสนอความแปลกใหม่ให้ชีวิต และแสดงถึงศักยภาพไร้ขีดจำกัดของวันสยาม ทุกวันนี้ผู้บริโภคยุค Thailand 4.0 เปิดรับความข้อมูลข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลาทำให้มีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกใช้สินค้าและบริการที่มีอยู่มากมาย ผู้ที่เลือกใช้บัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย คือ ผู้บริโภคที่ชาญฉลาดในการยกระดับการใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่า ยิ่งใช้ยิ่งได้ ยิ่งมาวันสยามบ่อยยิ่งมีเซอร์ไพรส์ บัตรเครดิต วันสยามกสิกรไทยจึงเป็นบัตรเครดิตที่ทุกคนใช้ได้ทุกๆ วัน การยกระดับมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการบัตรเครดิตในครั้งนี้ เป็น Winners & Winners Formula ซึ่งหมายถึงลูกค้าของทั้งธนาคารกสิกรไทยและลูกค้าวันสยาม คือ ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด เป็นชัยชนะของผู้บริโภคที่ตัดสินใจเลือกใช้บัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทยทุกคน

เพื่อฉลองการเปิดตัวบัตรเครดิตที่สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการบัตรเครดิตในครั้งนี้ บัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ยกขบวนสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นแบบจัดเต็ม ให้แก่สมาชิกบัตรกลุ่มแรก อาทิ ​เพียงสมัครบัตรเครดิตพร้อมกับ VIZ Card รับบัตรกำนัล มูลค่า 1,000 บาทฟรี ซึ่งเป็นบัตรกำนัลที่มีให้เลือกหลากหลายตามไลฟ์สไตล์ สำหรับผู้สมัครเป็นสมาชิกบัตรกลุ่มแรก ระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคม 2561 วันละ 500 รางวัลรับ 20,000 คะแนน (คะแนน KBank reward point 10,000 และ VIZ point 10,000 คะแนน) เมื่อสมัครและใช้จ่ายผ่านบัตร 10,000 บาท​ขึ้นไปภายในหนึ่งเดือนรับทันที 1,000,000 คะแนน เมื่อสมัครและใช้จ่ายผ่านบัตร 1,000,000 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2561

พิเศษสุดสำหรับผู้ที่มียอดใช้บัตรสูงสุด 3 ท่านแรก รับตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจไปยังจุดหมายปลายทางไหนก็ได้ในโลก จำนวน 2 ที่นั่ง จากสายการบินเอมิเรตส์ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2561

นอกจากนี้ บัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ได้แก่ วีซ่า (VISA) และสายการบินเอมิเรสต์ (Emirates Airline) ที่มาร่วมคัดสรรสุดยอดของสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์สำหรับลูกค้า เพื่อสร้างความแตกต่างและมอบความประทับใจให้กับทุกการใช้จ่ายและการใช้บริการภายในวันสยาม

ด้านนายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า แนวทางของธุรกิจบัตรเครดิตกสิกรไทย เน้นการพัฒนาให้เป็น “ไลฟ์สไตล์ เครดิต การ์ด” (Lifestyle Credit Card) สร้างประสบการณ์และความประทับใจ ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์สูงสุดที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม มีกิจกรรมการตลาดที่แปลกใหม่ รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรระดับผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ต่างๆ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและเลือกใช้บัตรเครดิตกสิกรไทยเป็นบัตรเดียวในการใช้จ่ายทุกๆ วัน ปัจจุบันฐานผู้ใช้บัตรเครดิตกสิกรไทยมีจำนวน 2.6 ล้านบัตร คาดการณ์ว่าจะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรในครึ่งปีแรกรวม 175,000 ล้านบาท โดยลูกค้ามียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 21,000 บาทต่อเดือนต่อบัตร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือบัตรเครดิตที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง ทั้งนี้ คาดการณ์การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่มสินค้าหรือบริการไลฟ์สไตล์มีแนวโน้มฟื้นตัวตามบรรยากาศการใช้จ่ายและภาพรวมของเศรษฐกิจ

ความร่วมมือกับสยามพิวรรธน์ในการเปิดตัวบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย เป็นการผสานศักยภาพความเป็นผู้นำธุรกิจของทั้งสองฝ่าย โดยธนาคารกสิกรไทย คือ หนึ่งในผู้นำธุรกิจบัตรเครดิต ในขณะที่สยามพิวรรธน์ เป็นผู้นำแห่งธุรกิจรีเทล ผู้พัฒนาวันสยามจนขึ้นแท่นเป็นโกลบอล เดสทิเนชัน (Global Destination) หรือจุดหมายปลายทางระดับโลก ทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ทุกๆ วันมีลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายในวันสยามจำนวนมาก และเป็นลูกค้าคุณภาพที่มียอดการใช้จ่ายสูง ธนาคาร กสิกรไทยมั่นใจว่า ความร่วมมือกับวันสยามในครั้งนี้ จะยกระดับทุกประสบการณ์การใช้ชีวิต และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในทุกครั้งที่จับจ่ายใช้สอยผ่านบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย ธนาคารตั้งเป้าไว้ว่า จะมีผู้สมัครใช้บัตรมากกว่า 100,000 ใบภายใน 1 ปี มีมูลค่าการใช้จ่ายรวม 5,700 ล้านบาท

บัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย มอบอภิสิทธิ์สูงสุดให้แก่สมาชิกบัตรทั้งในด้านการใช้จ่าย การใช้บริการ สิทธิประโยชน์ รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่สร้างความเซอร์ไพร์สให้กับลูกค้าอยู่เสมอตลอดการถือใช้บัตร ด้วยคอนเซปต์ “Make Everyday Extraordinary” มีรูปแบบบัตร 3 ประเภท ได้แก่ บัตรอินฟินิท (Infinite) , บัตรซิกเนเจอร์ (Signature) , และบัตรแพลทินัม (Platinum) ซึ่งมอบอภิสิทธิ์สูงสุดใน 3 ด้าน ได้แก่
1) ด้านการใช้จ่าย มอบคะแนนสะสมสูงสุดถึงสามเท่า โดยทุกการใช้จ่ายสามารถสะสมคะแนนแบบ Point Extra จากร้านค้าในวันสยาม โดย คะแนน 1,000 คะแนน มีมูลค่าสูงสุดเท่ากับ 300 บาท ซึ่งให้มากกว่าประมาณ 3 เท่า เมื่อเทียบกับบัตรเครดิตทั่วไป สามารถนำคะแนนไปแลกเป็นของรางวัลได้มากมายตามความต้องการของสมาชิกบัตร
2) ด้านสิทธิประโยชน์ รับเมนูอาหารและขนมจากร้านดังมากมายที่ร่วมรายการฟรีทุกสัปดาห์, รับบัตรชมภาพยนตร์จากโรงภาพยนตร์ระดับโลก, ได้รับเชิญการเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์, พรีวิวคอลเลคชั่น (Preview Collection) และพรีเซล (Pre-Sale) ที่มีตลอดทั้งปี
3) ด้านอำนวยความสะดวก สมาชิกบัตรสามารถประทับตราบัตรจอดรถฟรี สูงสุดวันละ 8 ชั่วโมง โดยไม่ต้องมียอดซื้อ และมีพื้นที่จอดรถที่สำรองไว้เฉพาะสมาชิก ที่ชั้น B1 สยามพารากอน และชั้น Ma สยามคาร์พาร์ค, บริการรถลิมูซีนรับส่งเพื่อเดินทางมาวันสยาม


SCB ผนึก “เดอะมอลล์กรุ๊ป” เปิด SCB M

หลังจากวันสยามเปิดตัววันสยามกสิรกไทยได้ไม่นาน ล่าสุด “ธนาคารไทยพาณิชย์” ผนึกกำลัง “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการค้าปลีกเมืองไทย เปิดตัว SCB M ที่ผสานดิจิทัลแบงก์กิ้งและไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเข้าด้วยกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “eMperience” ที่สุดของการพลิกประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ที่มาพร้อมแนวคิด “The First Evolution of Experiential Shopping” ที่สร้างวิวัฒนาการทางการเงินเป็นครั้งแรก ตอบทุกโจทย์ความต้องการนักช้อปผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่ 1. บัตร Co-Branded “SCB M” ครอบคลุมทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรพรีเพด และกิ๊ฟท์การ์ด มอบสิทธิประโยชน์ทุกไลฟ์สไตล์การช้อป 2. Payment Services ประสบการณ์การชำระเงินจากบัตร SCB M ในรูปแบบ Virtual Credit Card โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY บนมือถือ 3. Banking Agent Services บริการทางการเงินแบบครบวงจรถึงในห้างสำหรับขาช้อป เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถชำระบิลค่าสาธารณูปโภคได้ที่แคชเชียร์ในห้าง 4. เทคโนโลยีที่ช่วยให้การช้อปปิ้งสนุกมากยิ่งขึ้น อาทิ I-RESERVED PARKING บริการจองที่จอดรถล่วงหน้า เป็นต้น ปักธงร่วมสร้าง “ดิจิทัล ช้อปปิ้ง แพลตฟอร์ม” ยกระดับการให้บริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ตั้งเป้ายอดสมัครบัตรเครดิต และบัตรเดบิต SCB M ที่ 500,000 ใบ และคาดการณ์มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า 20,000 ล้านบาทในปีแรก พร้อมนำพาให้ทั้งสององค์กรเข้าไปนั่งอยู่ในใจของลูกค้า และกลายเป็นองค์กรที่น่าชื่นชมที่สุด (The Most Admired Company)

ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในโอกาสที่ธนาคารไทยพาณิชย์และเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้สานต่อความร่วมมือครั้งสำคัญกันอีกครั้ง เป็นภาคต่อจากความร่วมมือครั้งล่าสุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ที่ได้ร่วมกันสร้าง The First Cashless Retail Experience ในธุรกิจค้าปลีกเป็นครั้งแรกผ่านระบบการชำระเงินแบบ QR Payment เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลของผู้บริโภค และนำไปสู่ปรากฏการณ์ใหม่ของ Retail 4.0 การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการผสานจุดแข็งของสององค์กรชั้นนำเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ครั้งสำคัญในการพลิกประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ผ่านการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาเชื่อมต่อโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้า ภายใต้แนวคิด “The First Evolution of Experiential Shopping” ให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่เรียกว่า “eMperience” ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมค้าปลีกของประเทศไทย

นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกของประเทศ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นสถาบันการเงินไทยแห่งแรกของประเทศ นำเสนอนวัตกรรมการให้บริการกับลูกค้าในรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด The First Evolution of Experiential Shopping “SCBM Call it eMperience” โลกใหม่ ประสบการณ์ใหม่ เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ในการสร้าง Cashless Future Retail ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีกร่วมกับสถาบันการเงิน ด้วยการ Co-Created ผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดล้ำทางการเงิน เพื่อขานรับนโยบาย National e-Payment ของทางรัฐบาลและกระทรวงการคลังในการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลไร้เงินสดดังเช่นหลากหลายประเทศชั้นนำทั่วโลก

การให้บริการดังกล่าวจะครอบคลุมลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาใช้บริการทั้งในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ และสยามพารากอน ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์หลักของเดอะมอลล์ กรุ๊ป คือการปรับตัวเองจากสถานที่แบบซื้อมา ขายไป (Materialistic Place of Consumption) ให้เป็นสถานที่สร้างความสัมพันธ์พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำ ให้ความสุขกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง (The Experiential Place of Relationship and Entertainment) การช้อปปิ้งทุกวันนี้จะไม่ใช่เพียงการจ่ายเงินและได้สินค้ากลับไป แต่เป็นโอกาสที่เราจะได้เข้าใจความต้องการของลูกค้าและมอบประสบการณ์ที่พิเศษสุดให้กับลูกค้าต่อไป (Deeper Customer Engagement) โดยข้อมูล Big Data ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลจากภายในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าฯ (Customer Journey) ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ปัจจุบันเดอะมอลล์ กรุ๊ป มีลูกค้าหมุนเวียนทุกสาขารวม 400 ล้านคนต่อปี โดย 70% ของยอดขายในห้างฯ มาจากสมาชิก M card ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 4 ล้านคน และลูกค้ากว่า 55 % ชำระผ่าน Electronic Payment อาทิ บัตรเครดิต บัตรเดบิต QR เป็นต้น คาดว่าจะเพิ่มเป็น 70-80% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งโครงการความร่วมมือ “SCB M” ในครั้งนี้ถือเป็นการตอบสนองทุก Journey ของการช้อปปิ้ง

ความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ และ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในการพลิกประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “eMperience” ครอบคลุม 4 เรื่องหลัก ได้แก่

1. บัตร Co-Branded “SCB M VISA” มอบอภิสิทธิ์ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้ง
– บัตรเครดิต SCB M VISA ประกอบด้วย บัตรเครดิต SCB M LIVE VISA PLATINUM CREDIT CARD สำหรับผู้ที่มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป, บัตรเครดิต SCB M LUXE VISA SIGNATURE CREDIT CARD สำหรับผู้ที่มีรายได้ 100,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป และบัตรเครดิต SCB M LEGEND VISA INFINITE CREDIT CARD สำหรับลูกค้าที่ได้รับการเรียนเชิญให้สมัครบัตรเท่านั้น ซึ่งมีสิทธิประโยชน์มากมายจากการใช้จ่ายในห้างและนอกห้าง อาทิ ส่วนลดสูงสุด 10% รับคะแนน M Point สูงสุด 4 เท่า และสามารถนำคะแนนมาแลกรับสินค้าได้ทุกชิ้นทั้งห้าง

– บัตรเดบิต SCB M VISA ครั้งแรกสำหรับบัตรเดบิตที่จะได้รับคะแนนสะสม M Point X2 จากการใช้จ่ายผ่านบัตร และได้รับส่วนลด 5% จากการซื้อสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป พร้อมทั้งนวัตกรรมบัตร เดบิตแบบ Contactless

– บัตรพรีเพด SCB M VISA ครั้งแรกสำหรับบัตรพรีเพดที่จะได้รับคะแนนจากการใช้จ่าย และยังสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรได้ทั้งภายในและภายนอกห้าง เหมาะสำหรับกลุ่มเด็กนักเรียนหรือนักศึกษา และชาวต่างชาติ ซึ่งจะสมัครได้ทั้งในห้างและ SCB Exchange Booth

2. Payment Services ประสบการณ์ช้อปปิ้งจะเปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยีทางการเงินสุดล้ำ ตอบทุกความต้องการของนักช้อปในยุคดิจิทัล 4.0

– ช้อปปิ้งด้วยบัตรเครดิต SCB M บนมือถือ สแกน QR และชำระผ่านบัตรเครดิต SCB M VISA ในรูปแบบของ Virtual Card ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY

– E-commerce Platform and Payment Gateway แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และช่องทางการรับชำระผ่านอิเล็กทรอนิกส์

– SMART EDC เครื่องรับบัตรอัจฉริยะที่ให้แคชเชียร์ให้บริการได้อย่างรวดเร็ว สามารถรองรับการใช้งานต่างๆ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต AliPay WeChatPay ตรวจสอบและแลกคะแนน M Point และเติมเงินบัตรพรีเพด เป็นต้น

3. Banking Agent Services บริการทางเงินแบบครบวงจรสำหรับขาช้อป
– บริการประกันครั้งแรกในวงการค้าปลีก ด้วยบริการด้านประกัน อาทิ ประกันการเดินทาง, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันสุขภาพ, ประกันรถยนต์ และการขยายระยะเวลารับประกันผลิตภัณฑ์ (Extended Warranty)

– บริการบัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล
– Bill Payment บริการรับชำระค่าบริการ อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภคได้ในครั้งเดียว

4. เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและผู้ถือบัตร SCB M VISA เพื่อช่วยให้สนุกกับการช้อปปิ้งมากขึ้น
– I-RESERVED PARKING รูปแบบใหม่การจองที่จอดรถภายในห้าง ซึ่งถือเป็นบริการพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต SCB M LEGEND VISA INFINITE และ SCB M LUXE VISA SIGNATURE

– CHATBOT ผ่าน LINE THE MALL GROUP ผู้ช่วยในการตอบคำถาม และช่องทางในการสั่งซื้อสินค้า

– Indoor Navigation เครื่องมือนำทางภายในศูนย์การค้า เพื่อความสะดวกในการค้นหาร้านค้า

นอกจากนี้ SCB M ยังให้บริการเดลิเวอรี่สำหรับการซื้อสินค้า 5,000 บาทขึ้นไป รัศมีไม่เกิน 5-10 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ในช่วงแรกเดือนสิงหาคมนี้ ได้เปิดตัวบัตรเครดิตและบัตรเดบิต SCB M VISA, SMART EDC และเทคโนโลยีด้านการบริการ I-RESERVED PARKING ซึ่งผลิตภัณฑ์อื่นๆ จะทยอยเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2561

หัวเรือใหญ่ ค่ายเดอะมอลล์ กรุ๊ป มั่นใจว่า การเปิดตัวโครงการ SCB M ในครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการช้อปปิ้งและเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับและขับเคลื่อนธุรกิจของไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดสมัครบัตรเครดิตและบัตรเดบิต SCB M VISA 500,000 ใบในปีแรกหลังการเปิดตัว และคาดการณ์ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า 20,000 ล้านบาท

เชื่อว่าอีกไม่นานนับจากนี้สังคมไทยคงเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างสมบูรณ์แบบในอีกไม่ช้านี้

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: