เจน 3 พลิกฟื้น “เล่งหงส์”
ใครที่ชื่นชอบอาหารจีนคงจะคุ้นเคยกับชื่อ ภัตตาคารเล่งหงษ์ ร้านอาหารจีนในยุคแรกๆ ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 5 ทศวรรรษ เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2505 ภัตตาคารเล่งหงษ์ เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกบนถนนสีลม ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจใจกลางเมือง และนับว่าภัตตาคารเล่งหงษ์เป็นภัตตาคารจีน สไตล์ แต้จิ๋ว ที่มีคุณภาพอาหารที่อร่อยและบรรยากาศทันสมัยเทียบเท่าต่างประเทศ นอกจากนี้ ภัตตาคารเล่งหงษ์ยังเป็นภัตตาคารแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้มีการติดตั้งแอร์คอนนิชั่นทั้งตัวอาคาร ซึ่งนับว่า ล้ำสมัย และเป็นต้นแบบของภัตตาคารจีนในยุคต่อๆมา แต่ในปี พ.ศ. 2534 ถนนสีลมได้ทำการเวนที่คืนเพื่อสร้างทางด่วน ทำให้ ภัตตาคารเล่งหงษ์ ต้องตัดสินใจหาทำเลใหม่
กระทั่งในปี พ.ศ. 2535 ภัตตาคารเล่งหงษ์ได้ขยับขยายย้ายไปเปิดที่ ถนน พระรามที่ 2 บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่หลังจากที่ย้ายมาแล้ว ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ จึงได้ขยายสาขาไปสู่ถนน สุขุมวิท 62 ในปี พ.ศ. 2548 จนปัจจุบัน รวมระยะเวลาที่เปิดให้บริการมากว่า 55 ปี
ปัจจุบัน ภัตตาคารเล่งหงส์ บริหารงานจากรุ่นสู่รุ่น จากรุ่นคุณปู่ผู้บุกเบิกตั้งแต่สาขาแรก สู่รุ่นคุณพ่อในสาขาปัจจุบัน ล่าสุด ได้เวลาส่งต่อไปยังรุ่นลูกๆ ทั้ง 3 คน ตระกูลอรุณศิริสกุล คนหนุ่มคนสาวที่ขันอาสานำพาธุรกิจครอบครัวแตกหน่อต่อยอดและพร้อมพลิกฟื้นแบรนด์ดั้งเดิมให้กลับมามีชีวิตชีวา

“ณัฐพัชร์ อรุณศิริสกุล” หรือนิก ในวัย 28 ปี ทายาทคนสุดท้องในฐานะลูกชายคนเดียวของครอบครัวคือหนึ่งในผู้บริหารภัตตาคารเล่งหงส์ที่ถูกหมายมั่นปั้นมือจากครอบครัวให้เข้ามาดูแลอย่างเต็มตัวหลังจบการศึกษาที่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ตั้งแต่ ป.1 – ม.6 และเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สาขานิเทศศาสตร์ เอกการแสดง ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารภัตตาคารเล่งหงษ์ สาขาพระราม 2 และ สาขาสุขุมวิท 62 และด้วยที่ชื่นชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจจึงทำรายการ กินเที่ยวอะราวเดอะเวิลด์ ทางช่อง 3SD ช่อง 28 มาแล้ว 5 ปี
นิก เล่าวว่า เล่าว่า ปัจจุบันภัตคารเล่งหงษ์ มี 2 สาขา คือ สาขาพระรามสอง และสาขาสุขุมวิท 62 โดยกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มครอบครัว และนักธุรกิจ ด้วยจุดแข็งของรสชาติที่คงเอกลักษณ์ต้นตำรับจีนแต้จิ๋ว อีกทั้งการให้ความสำคัญของวัตถุดิบและความสดของอาหารต้องมาเป็นอันดับ 1 พร้อมทั้งการให้บริการที่เป็นเลิศ และมุ่งเน้นให้ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าไม่เปลี่ยนแปลง จึงทำให้เล่งหงษ์มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในปัจจุบันที่ภาพรวมเศรษฐกิจซบเซาทางร้านก็ไม่ได้รับผลกระทบ ลูกค้ายังคงมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ร้านจึงเติบโตอย่างมั่นคงมาโดยตลอดจนเข้าปีที่ 55 แล้ว ทั้งนี้ทางร้านยังให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้เท่าทันยุคเพื่อเป็นร้านอาหารจีนที่ทันสมัย พร้อมทั้งนำระบบคอมพิวเตอร์บริหารงานทั้งหลังร้านและหน้าร้านเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำในการให้บริการ อีกทั้งเพิ่มช่องทางการติดต่อให้มากขึ้น อาทิ เฟสบุ๊ค, ไลน์แอด และ แอปพลิเคชัน Panda Food เพื่อตอบรับกับยุคดิจิตอล
แผนการขยายไลน์ธุรกิจของเล่งหงษ์ฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ “เล่งหงษ์ คิทเช่น” เป็นธุรกิจร้านอาหารจีนแนวโมเดิร์น จะทำเป็นอาหารย่อส่วนในราคาที่สัมผัสได้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น เน้นเปิดตามห้างสรรพสินค้า และอีกหนึ่งแบรนด์ที่ก้าวข้ามออกมาจากสายธุรกิจอาหารจีน คือ “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม คุณภาพระดับ 5 ดาว ในราคาที่ใครๆ ก็สามารถมาลิ้มลองได้ โดยพื้นที่ในการเปิดร้านเป็นแบบร้านเดียวอยู่ในบริเวณห้างฯ หรือนอกห้างฯ แล้วแต่โลเคชั่นที่เหมาะสม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการวางแผนงาน ซึ่งทำเลที่โดดเด่นคือราชพฤกษ์และสุขุมวิท คาดว่าน่าจะเริ่มเห็นทั้ง 2 แบรนด์ในปี 61 นี้แน่นอน

ในส่วนของ ภัตตาคารเล่งหงษ์ นิก บอกว่า ยังคงสนใจขยายสาขาเช่นกันแต่ด้วยขนาดพื้นที่ที่ต้องใช้ 1-2 ไร่ทำให้ยากในการขยายสาขา จึงต้องเน้นไปที่ 2 แบรนด์เปิดใหม่ ซึ่งง่ายและคล่องตัวมากกว่า แต่ก็พร้อมลงทุนหากได้ทำเลที่เหมาะสม ซึ่งกำลังพิจารณาแถวราชพฤกษ์ คาดว่าจะสรุปได้เร็วๆ นี้ และด้วยความที่เป็นแบรนด์เก่าแก่ เปิดให้บริการมานานจึงต้องมีการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านอย่างต่อเนื่องเพื่อย้ำเตือนผู้บริโภค ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ และตัวเองทำรายการกินเที่ยวอะราวเดอะเวิลด์ ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00 น. ทางช่อง 3SD ช่อง 28 จึงทำให้มีโอกาสได้ไปชิมอาหารเมนูแปลกใหม่ และก็มีการนำมาปรับใช้กับเมนูของเล่งหงษ์ โดยจะมีการคิดเมนูพิเศษเดือนละ 1 เมนูเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสชิมอาหารรสชาติใหม่ๆ ไม่จำเจ ลูกค้าประจำของร้านก็จะได้ตื่นเต้นไปกับเมนูใหม่ของร้านอยู่เสมอ
ด้วยความที่เปิดมานาน ผู้บริโภคอาจสับสนเรื่องแบรนด์เพราะมีชื่อร้านอื่นที่คล้ายคลึงกันเป็นจำนวนมาก นิก ชี้แจงว่า สาขาดั้งเดิมและออริจินอลของภัตตาคารเล่งหงส์ มี 2 สาขาเท่าน้ันคือ พระราม 2 กับสุขุมวิท 62 ส่วนสาขาอื่นๆ ไม่ใช่ของครอบครัว อรุณศิริสกุล แต่อย่างใด
นิก ย้ำว่า ทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันช่วยบริหารงานจากคนในครอบครัว โดย ภิญญ์สินี อรุณศิริสกุล หรือ แน๊ต เล่งหงษ์ พี่สาวคนโต ช่วยดูแลด้านการตลาดและจัดซื้อ, พิมพ์นิภา อรุณศิริสกุล หรือ โน้ต เล่งหงษ์ พี่สาวคนกลาง ดูแลด้านผลิตภัณฑ์, การเงิน และรายการทีวี, นิก เล่งหงษ์ ลูกชายคนเล็ก ดูแลด้านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งหมด และอีกกำลังสำคัญ คุณหงส์ เล่งหงษ์ นางสุคนธนิตย์ ธนเดชาพันธ์ ผู้เป็นแม่ และบุคคลสำคัญที่จะขาดเสียมิได้คือ ณธีพัฒน์ อรุณศิริสกุล หรือ เฮียซ้ง เล่งหงษ์ ผู้เป็นพ่อ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานบริหาร ภัตตาคารเล่งหงษ์ หัวเรือใหญ่ที่ช่วยบริหารงานร้านทั้ง 2 สาขาจนเติบโตและสำเร็จมาถึง 55 ปีนี้
โดยคำสอนของพ่อที่ย้ำเตือนลูกๆ ทั้ง 3 ที่ นิกจำได้ขึ้นใจและยึดถือปฏิบัติเรื่อยมาคือ การทำธุรกิจร้านอาหารมีคนอยู่ 2 ประเภทคือคนที่ได้ทำ กับคนที่ทำได้ คนที่ได้ทำมักจะทำไม่นานแล้วก็หายไป ส่วนคนที่ทำได้ จะอยู่ได้ อีกทั้ง หลักในการทำธุรกิจไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ไม่มีใครได้กำไร 100% ต้องมีการแบ่งปันให้คนอื่น คือ ต้องยอมบ้าง เพื่อให้ทุกคนวินวินธุรกิจจึงจะอยู่ได้
ในโอกาสครบรอบปีที่ 55 ของ เล่งหงษ์ฯ ทางร้านจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนเราเสมอมา ด้วยโปรโมชั่น เป็ดปังกิ่งต้นตำรับ 55 ปี จากเล่งหงษ์ฯ จากราคาปกติ 900 บาท ลดพิเศษเหลือเพียง 599 บาท และโปรฯ ข้าวหน้าเป๋าฮื้อ จากปกติ 400 บาท ลดพิเศษเหลือ 299 บาท (สำหรับ 1-2 ท่าน) นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูชื่อดังไม่ว่าจะเป็น ไก่แช่เหล้า, หูฉลามน้ำแดง, กุ้งทอดราดซอสวาซาบิ, เนื้อปูก้อนผัดผงกระหรี่, หมีเล่งหงษ์ และขนมหวานขึ้นชื่ออย่าง คู่หูคู่เฮง ไว้รอต้อนรับในทุกวันอีกด้วย
ภัตตาคาร เล่งหงษ์ฯ หนึ่งในร้านอาหารสไตล์ครอบครัวที่ส่งต่อความรักความอบอุ่นจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนาน การรักษาแบรนด์ดั้งเดิมถือเป็นความท้าทาย ขณะที่การพัฒนาก็ต้องไม่หยุดยั้งเช่นกัน