ยังคงเดินหน้าแข่งขันกันอย่างรุนแรงสำหรับตลาดความงามบ้านเราที่ไม่ว่าจะอยู่ในยุคใดสมัยใด ตลาดนี้เป็นตลาดเดียวที่มีการเติบโตขณะที่ตลาดสินค้าประเภทอื่นๆ ยังคงผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจและเงินในกระเป๋า
ล่าสุด “ลอรีอัล (ประเทศไทย)” ตอกย้ำความบิ๊กด้านความงามของโลก ส่ง “จิออร์จิโอ อาร์มานี่ บิวตี้” (Giorgio Armani Beauty) รับการเติบโตตลาดบิวตี้ มั่นใจบูทีคสโตร์แห่งแรกในไทยและ SEA (เซาท์อีสต์เอเชีย) กระแสตอบรับดี ทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมขยายสาขา 2 ที่ห้างสรรพสินค้าเซนเป็นสาขาต่อไป
“จิออร์จิโอ อาร์มานี่” (Giorgio Armani) แบรนด์ไฮ-เอนด์ที่เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องสำอาง,ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, และน้ำหอม ของผู้นำตลาดความงามอย่าง “ลอรีอัล” (L’Oreal) เตรียมเปิดตัว “จิออร์จิโอ อาร์มานี่ บิวตี้” (Giorgio Armani Beauty) บูทีคสโตร์แห่งแรกในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 พฤษภาคมศกนี้ ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ภายใต้คอนเซ็ปต์สุดหรู “Fil Rouge” เพื่อนำเสนอสัญลักษณ์แห่งความสง่างามแบบอิตาเลียนที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง “จิออร์จิโอ อาร์มานี่” ได้สรรค์สร้างความงามแบบองค์รวม ผ่านเครื่องสำอาง สู่ความสวยสมบูรณ์แบบ
สิรียา ชุณหกิติยานนท์ ผู้อำนวยการแบรนด์จิออร์จิโอ อาร์มานี่ บิวตี้ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด มองภาพรวมตลาดความงามในไทยปัจจุบันว่า มีอัตราเติบโตสูงขึ้น โดยกลุ่มเครื่องสำอางเติบโตมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องสำอางระดับบน ยังนับว่าเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มอาเซียน เพราะมีความต้องการของลูกค้าอย่างกว้างขวาง ซึ่งในปีนี้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่กับผลิตภัณฑ์ที่ดีและเป็นที่รู้จักทั่วโลกให้กับคนไทยได้รู้จัก และมีโอกาสที่จะได้ใช้ โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปซื้อจากต่างประเทศ ด้วยการเปิดตัว “จิออร์จิโอ อาร์มานี่ บิวตี้” บูทีคสโตร์แห่งใหม่ใจกลางกรุง ครอบคลุมทั้งเมกอัพ สกินแคร์ จนกระทั่งน้ำหอม จุดเด่นคือเป็นที่แรกในไทยและ SEA โดยกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้หญิงไทยที่มีไลฟ์สไตล์ เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ มีความมั่นใจ โมเดิร์น และชื่นชอบความลักชูรี่หรูหรา
ผลิตภัณฑ์ของ “จิออร์จิโอ อาร์มานี่ บิวตี้” เริ่มตั้งแต่ Lip Pencil ราคา 900 บาท จะกระทั่งถึง 14,500 บาท ซึ่งเป็นครีม Crema NERA Serum ที่เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชั้นสูงพร้อมด้วยอื่นๆ ที่หลากหลาย อาทิ รองพื้น ลิป กว่า 500 SKUs
