Biznews

ได้เวลา “ยูนิโคล่” ขอโตนอกห้าง

แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจบ้านเราในปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้จะยังไม่ค่อยชัดเจนมากนัก ช่างดูสวนทางอย่างสิ้นเชิงกับกระแสแฟชั่นในเมืองไทยที่มีผู้เล่นแบรนด์ดังต่างชาติหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาดมากมาย ทำให้เกิดการแข่งขันสูงท่ามกลางการแปรเปลี่ยนของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยากต่อการคาดเดา

หนึ่งในอินเตอร์แบรนด์ในตลาดแฟชั่นรวดเร็ว (Fast Fashion)ที่น่าจับตามากที่สุดในเวลานี้คือ ยูนิโคล่ ที่เข้ามาเปิดกิจการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2011 ที่ผ่านมาและถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับสาขาในประเทศอื่นๆ จนสามารถไต่ขึ้นสู่อันดับความนิยมที่ 7 ในปีที่ผ่านมาจากการจัดอันดับของ YouGov Branding

ยูนิโคล่ มีต้นกำเนิดที่ประเทศญี่ปุ่น กรุงโตเกียว ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2492 จากบริษัทที่มีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดยะมะงุชิ โอะโกะริ โชจิ ได้เปิดร้านขายเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายที่มีชื่อว่า “เมนส์ช็อปโอเอส” (Men’s Shop OS) ขึ้น ในเมืองอุเบะ

ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2527 เขาก็เปิดร้านขายเสื้อผ้าโดยมีคอนเซ็ปต์ made for all หรือเสื้อผ้าลำลองที่ทำมาเพื่อทุกคน คุณภาพดี ใส่สบาย ราคาถูก มีให้เลือกหลายสี และไม่ตามเทรนด์แฟชั่น เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยใน ฟุกุโระมาชิ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนะกะกุ จังหวัดฮิโระชิมะ ภายใต้ชื่อ “ยูนีคโคลธิงแวร์เฮาส์” (Unique Clothing Warehouse) ในช่วงแรกนั้น จากชื่อ “ยูนีคโคลธิง” ก็ได้ปลี่ยนชื่อเป็น “ยูนิโคล่” (uni-clo)

อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2531 จากการบริหารงานระหว่างในสาขาที่ฮ่องกง พนักงานได้อ่านผิดจาก “ซี” (C) เป็น “คิว” (Q) ทำให้หลังจากนั้นจึงกลายเป็นชื่อใหม่ ซึ่งทะดะชิ ยานะอิ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ยูนิโคล่” (uniqlo) ในประเทศญี่ปุ่นด้วย หลังจากนั้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2534 ชื่อบริษัทได้ถูกเปลี่ยนจาก “โอะโกะริ โชจิ” (Ogori Shōji) เป็น “ฟาสต์รีเทลลิง”(Fast Retailing) และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2537 ก็มีร้านยูนิโคล่มากกว่า 100 สาขาในประเทศญี่ปุ่น

สำหรับยูนิโคล่ ประเทศไทย ปัจจุบันมีจำนวนสาขา 35 แห่งแบ่งเป็นกรุงเทพฯ 21 สาขา และต่างจังหวัด14 สาขา ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าทั้งหมดทั้งกลุ่มเซ็นทรัลและเดอะมอลล์ซึ่งห้างใหญ่ทั้ง 2 ค่ายแม้ว่าจะมีการเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ต้องใช้เวลาหลายปีต่อสาขาทำให้อาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของยูนิโคล่ก็เป็นได้

ล่าสุด “ยูนิโคล่” เปิดฉากรับปีศักราชใหม่ด้วยการประกาศโมเดลใหม่ด้วยการเปิดสาขาในรูปแบบสแตนด์อะโลนนอกห้าง สาขาแรกในไทย โดยเลือกพื้นที่พัฒนาการ 58 หน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในวันที่ 23 มีนาคมนี้เป็นต้นไป โดยเรียกรูปแบบนี้ว่า โรดไซด์ สโตร์ (Roadside Store) หรือ ร้านในทำเลติดถนน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนเหตุผลที่เลือกทำเลย่านพัฒนาการนั้น “ซาโตชิ ฮาตาเซะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของยูนิโคล่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกว่าฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงเช่นเดียวกับอีกหลายๆ แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับร้านในทำเลติดถนนซึ่งต้องมีพื้นที่จอดรถที่กว้างขวางไว้รองรับลูกค้าคนพิศษของยูนิโคล่ ที่อยู่ในย่านนั้นๆ ให้แวะเข้ามาใช้บริการ และยังมีการออกแบบให้เหมาะกับทุกคนในครอบครัวอีกด้วย

นอกจากนี้ พัฒนาการยังเป็นย่านที่คึกคักด้านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จำนวนประชากรราว 7 แสนคนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อ ซึ่งสาขาดังกล่าวจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์แวร์ (LifeWear) ของยูนิโคล่อย่างครบถ้วน ตั้งแต่สินค้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิงไปจนถึงสินค้าสำหรับเด็ก พร้อมกับนำประสบการณ์ใหม่ในการช็อปปิ้ง พร้อมความสะดวกสบายมาสู่ลูกค้าในประเทศไทยผ่านร้านรูปแบบใหม่ของยูนิโคล่

รูปแบบทั่วไปของร้านยูนิโคล่ โรดไซด์โรดไซด์ สโตร์ มีที่จอดรถที่สะดวกสบาย เพียงพอ ไว้สำหรับลูกค้า และพร้อมจะกลายเป็นศูนย์กลางอีกแห่งของชุมชนด้วยการออกแบบร้านที่คำนึงถึงความต้องการของผู้มาใช้บริกาเป็นสำคัญ ที่ผ่านมา ร้านยูนิโคล่ โรดไซด์ สโตร์ มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของยูนิโคล่ในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วในอดีต และกำลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในประเทศอื่นๆ อาทิ เกาหลีและไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม ยูนิโคล่ยังพร้อมที่จะกลับมาลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในรูปแบบในห้างและรูปแบบใหม่สแตนด์อะโลนควบคู่กันไป หลังจากปีที่ผ่านมาเปิดสาขาไปเพียง 1 สาขาเทา่นั้น ส่วนปีนี้คาดว่าจะเปิดได้หลายสาขาซึีงในเดือนมีนา- เมษานี้มีกำหนดเปิดอีก 3 สาขาคือเซ็นทรัลมหาชัย เซ็นทรัลพิษณูโลก ส่วนอีก 1 สาขาคือ พัฒนาการในรุปแบบสแตนด์อะโลน

เมื่อหาเหตุผลว่าทำไมยูนิโคล่ถึงประสบความสำเร็จและโดนใจคนไทยท่ามกลางหลากหลายแบรนด์เนมที่หลั่งไหลเข้ามามากมาย ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าต้นกำเนิดของยูนิโคล่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งแน่นอนเป็นดินแดนแห่งแฟชั่นชั้นนำ อีกทั้งแนวทางการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งยูนิโคล่มีโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า Specialty store retailer of Private Label Apparel หรือ SPA นั่นคือ ร้านค้าปลีกเฉพาะทางที่จำหน่ายเสื้อผ้าลำลอง ซึ่งรวมกระบวนการผลิตเสื้อผ้าทั้งหมดจากโรงงานส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทำให้พนักงานมีความเข้าใจกระบวนการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารระดับสูง ยูนิโคล่ เคยระบุไว้ว่า ตั้งเป้าหมาย 100 สาขาภายในปี 2564 ซึ่งการจะไปถึงเป้าหมายดังกล่าวทำให้ยูนิโคล่มองโอกาสจากทุกช่องทางที่มีศักยภาพ ซึ่งนั่นรวมถึงการออกมาเปิดสาขานอกห้างเป็นครั้งแรกด้วย

เพราะเป้าหมายของยูนิโคล่ คือการเป็นแบรนด์เสื้อผ้าอันดับ 1 ในทุกประเทศที่ดำเนินธุรกิจ รวมถึงประเทศไทย …..

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: