ยักษ์ใหญ่ยังต้องยอม !!! ห้าง Macy’s ใช้วีอาร์แล้ว

หลังจากมีข่าวใหญ่ข่าวร้ายของห้างเมซี่ส์ หนึ่งในห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2401 ปลดพนักงานกว่า 10,000 คนและปิดสาขา 68 แห่ง ซึ่งเป็นผลจากธุรกิจค้าปลีกโดนดิสรัปอย่างหนักจากอีคอมเมิร์ซ ทำให้ยอดขายลดลงต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารห้างเมซี่ส์ วางแผนที่จะปิดสาขาลงราว 100 แห่งจากที่มีอยูํ่ 730 แห่ง

ล่าสุด ห้างเมซี่ส์ได้ปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้ทันกระแสเทคโนโลยีดิสรัปชั่น และเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล ด้วยการนำเทคโนโลยี วีอาร์ (Virtual Reality) เทคโนโลยีโลกเสมือนมาให้บริการลูกค้า โดยเริ่มจากการติดตั้งวีอาร์ใน 70 สาขาทั่วอเมริกา และจะขยายไปอีกไม่ต่ำกว่า 20 สาขาในเดือนมกราคม 2562

ก่อนหน้านี้ ห้างเมซี่ส์ได้ร่วมกับ Marxent ผู้ให้บริการเทคโนโลยี เปิดทดลองเทคโนโลยีวีอาร์ในร้านค้า 3 แห่ง และเห็นผลสำเร็จจากยอดขายกลุ่มเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้นมากกว่า 60% เมื่อเทียบกับยอดขายเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ใช้วีอาร์ ซึ่งยอดขายที่เติบโตขึ้น เป็นผลมาจากการที่ลูกค้าได้เห็นรูปแบบใหม่ของผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ และทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

นายฮาล ลอว์ตัน ประธานของเมซี่ส์กล่าว ลูกค้าสามารถออกแบบพื้นที่ใช้สอยและใช้ชุดหูฟังวีอาร์ เพื่อสัมผัสประสบการณ์จากห้องเสมือนที่พวกเขาสร้างขึ้น ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า แอพพลิเคชั่นวีอาร์สามารถนำมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายได้ และเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการรวมเทคโนโลยีและการสัมผัสของมนุษย์เข้าไว้ด้วยกัน และยังช่วยให้สามารถนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ที่มีขนาดเต็มรูปแบบในพื้นที่ที่มีขนาดเล็กลง

นอกจากนี้ ห้างเมซี่ส์ยังพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่เรีกยว่า “See Your Space IRL” ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถออกแบบและจัดวางผลิตภัณฑ์เครื่องเรือนของเมซี่ส์ในพื้นที่ใช้สอยจริงได้ โดยจะเริ่มให้บริการผ่านแอนดรอยด์ในปี 2662

นับเป็นหนึ่งตัวอย่างของค้าปลีกที่เป็นรูปแบบ brick-and-mortar หรือร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่ให้ผู้ซื้อสามารถเข้าไปจับดูสินค้าก่อนซื้อได้ ซึ่งอยู่ในโลกออฟไลน์ ยังต้องกระโดดเข้าสู่โลกออนไลน์ เพราะสุดจะต้านทานกระแสเทคโนโลยีดิสรัปชั่น

ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นแนวทางที่ค้าปลีกรายอื่นๆ ต้องปรับตัวเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก insideretail.asia