ภาพรวมคอนโด Q 3-4
แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยจะยังไม่ฟื้นตัวแต่เริ่มมีสัญญานบวกมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทั้งจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทยมากขึ้นทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้นไปด้วย แต่ภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมยังไม่ดีขึ้น คนไทยยังไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจดีขึ้นแบบที่รัฐบาลบอกทำให้ในหลายภาคธุรกิจยังประสบกับปัญหาพอสมควรที่เห็นชัด คือ ภาคธุรกิจค้าปลีกที่ผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มประสบกับปัญหาจากผู้เช่าที่รายได้ลดลง หรือการชะลอการขยายโครงการใหม่ออกไปรวมไปถึงการปรับตัวมาสู่รูปแบบโครงการขนาดเล็กมากขึ้นเพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้โดยตรง ร้านค้ารายย่อยก็ประสบปัญหาเรื่องของรายได้ที่ลดลงเพราะคนไทยลดการใช้เงินลงไประดับหนึ่ง
คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในแต่ละไตรมาส ตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 เป็นต้นมา
ที่มา: ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เองก็ชะลอตัวเช่นกันในส่วนของอุปสงค์หรือว่ากำลังซื้อแต่อาจจะเห็นไม่ชัดเจนในตลาดอาคารสำนักงานเพราะเป็นตลาดที่มีการทำสัญญาเช่าระยะยาวและเป็นตลาดที่มีการจับจองพื้นที่ล่วงหน้าหลายเดือนหรือเป็นปีทำให้ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าใดนัก แต่ความต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานยังคงมีอยู่แต่อาจจะไม่มากเท่าก่อนหน้านี้อีกทั้งอาคารสำนักงานใหม่ๆ มีแผนสร้างเสร็จในช่วง 1 – 3 ปีข้างหน้าอีกไม่น้อยกว่า 500,000 ตารางเมตรซึ่งอาจทำให้อัตราเช่าเฉลี่ยในอนาคตลดลง ส่วนพื้นที่ค้าปลีกในอนาคตที่มีกำหนดสร้างเสร็จในช่วง 1 – 3 ปีข้างหน้าอยู่ที่ประมาณ 601,940 ตารางเมตร ตลาดคอนโดมิเนียมเป็นตลาดที่เห็นการเปลี่ยนแปลงและเป็นตลาดที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา เพราะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ประมาณ 18,806 ยูนิตมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
โดยผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ยังคงเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนตลาดต่อเนื่องเพราะว่าประมาณ 73% ของคอนโดมิเนียมทั้งหมดที่เปิดขายในไตรมาสที่ 3 เป็นของผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์อีกทั้งโครงการที่เปิดขายของพวกเขาก็ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดีในหลายโครงการหลายทำเลบางโครงการปิดการขายหรือว่ามีอัตราการขายมากกว่า 80% ในวันที่เปิดขายแบบเป็นทางการวันแรก แต่ก็มีหลายโครงการที่อาจจะไม่ได้รับความสนใจเช่นกัน แม้ว่าจะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 หลายโครงการที่มีอัตราการขายสูงหรือปิดการขาย แต่อัตราการขายเฉลี่ยของโครงการที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งถือว่าสูงกว่าไตรมาสอื่นๆ ที่ผ่านมา ระดับราคาที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจมากที่สุดคือคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายอยู่ในช่วง 60,000 – 120,000 บาทต่อตารางเมตรเพราะมีสัดส่วนถึง 64% เนื่องจากผู้ประกอบการเน้นเปิดขายโครงการในพื้นที่ที่ราคาที่ดินไม่สูงเกินไป เช่น พื้นที่ที่เส้นทางรถไฟฟ้าต่างๆ กำลังก่อสร้าง เช่น สายสีเขียว สายสีน้ำเงิน และสายสีส้ม เป็นต้น
ผู้ประกอบการหลายรายชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ในไตรมาสที่ 4 แต่ก็มีบางรายที่เริ่มประชาสัมพันธ์ถึงโครงการใหม่ที่จะเปิดขายในไตรมาสที่ 4 แล้วในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 เพื่อจะได้ให้คนรับรู้ก่อนจะหยุดกิจกรรมทางการตลาดในเดือนตุลาคม ในช่วงไตรมาสที่ 4 ผู้ประกอบการหลายรายมุ่งเน้นไปที่การระบายยูนิตที่สร้างเสร็จแล้วและการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่สร้างเสร็จเพื่อจะได้เพิ่มรายได้ของตนเองให้เป็นไปตามเป้าหรือต่ำกว่าเป้าไม่มากเกินไป คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพมหานครในปีพ.ศ.2560 มากกว่า 50,000 ยูนิตแน่นอนและมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ช่วงกลางปี แต่ก็ต้องอยู่ที่ผู้ประกอบการว่าจะเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่องหรือไม่ในไตรมาสที่ 4