แม้ว่าตลาดรวมเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ที่มีมูลค่าราว 6,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาจะไม่ค่อยคึกคักมากนักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าน้ันที่เหล่ารายใหญ่บิ๊กเนมเข้ามาทำตลาดทำให้ตลาดคึกคักโดยไม่เกรงกลัวเจ้าถิ่นที่อยู่มานานและครองความเป็นผู้นำอย่าง สปอนเซอร์ ที่กวาดส่วนแบ่งมาครองกว่า 80% ก็มิได้ทำให้รายอื่นๆ เกรงกลัวไม่แต่กลับตรงกันข้ามกลับมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบอยู่บ่อยครั้ง
ล่าสุด ค่ายผู้นำในตลาดน้ำผลไม้เมืองไทยแบรนด์ใหญ่ อย่าง“ทิปโก้” ก็ขอเข้าร่วมตลาดเครื่องดื่มสปอตดริ้งค์ด้วยการทุ่มเม็ดเงิน 80 ล้านเปิดตัว “ทิปโก้ เวฟ” หวังตีตลาดและช่วงชิงส่วนแบ่งในกลุ่มผู้รักสุขภาพที่ชื่นชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ ท้ังนี้ ทิปโก้ เวฟตั้งเป้าปีแรกกวาดแชร์ 15-20% ก่อนขึ้นแท่นผู้นำใน 3-5 ปี
กิตติเชษฐ์ สถิตย์นพชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) เผยว่า ทิปโก้ต่อยอดความแข็งแกร่งจากผู้นำวงการตลาดกลุ่มน้ำผลไม้สู่กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ด้วยจุดยืนที่สำคัญของ Tipco มุ่งเน้นสินค้าเพื่อสุขภาพที่มาจากธรรมชาติตามเทรนด์ความต้องการของลูกค้า โดยมีกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 20-50 ปี เป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ พร้อมทั้งชื่นชอบวิถีธรรมชาติรักการออกกำลังกายและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเอง พร้อมแคมเปญใหม่ “ทิปโก้เวฟ ดื่มอิสระใหม่ของความสดชื่น” คร้ังแรกในรอบกว่า 20 ปีที่ทิปโก้เปิดตลาดใหม่นอกจากน้ำผลไม้
“ทิปโก้ เวฟ”(Tipco WAVE™) วางโพสิชั่นนิ่งของสินค้าไว้ในกลุ่มของเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ (Sport Drink) ระดับพรีเมี่ยม เนื่องจากเทรนด์การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายที่กำลังเติบโต จึงทำให้ตลาดฯ มีการเติบโตค่อนข้างสูงตาม และมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยประมาณ 10-15% จากการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องใน 3 ปีที่ผ่านมา จึงสบโอกาสและเชื่อว่า “ทิปโก้ เวฟ”(Tipco WAVE™) จะเป็นอีกทางเลือกของผู้บริโภคที่รักสุขภาพและรักการออกกำลังกายมั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีที่ตลาดฯ มีการเติบโตและกลับมาคึกคักอีกครั้งโดยทิปโก้เวฟ มีให้เลือก 2รสชาติคือ 1.Tipco WAVE รส Original และ 2.Tipco WAVE รส Orange มีขนาด 500 ml. ราคา 30 บาท ด้วยจุดเด่นคือ การนำแร่ธาตุธรรมชาติ BluBio™ Ocean Mineral (บลูไบโอ) ลิขสิทธิ์เฉพาะของทิปโก้จากมหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีช่องทางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven) จุดขายตามสถานที่ออกกำลังกาย เช่น ฟิสเนส สนามกีฬา สวนสาธารณะ เป็นต้น
ด้านกลยุทธ์การทำตลาด ใช้งบการตลาดกว่า 80 ล้านบาทเน้นการตลาดเชิงสร้างสรรค์และสร้างการรับรู้ (Infotainment / Edutainment) ควบคู่ไปกับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ อย่างต่อเนื่องแบบ 360 องศาทั้ง Above the line และ Below the line พร้อมทั้งยังได้จัดกิจกรรมโรดโชว์และ Sampling ตามสถานที่ออกกำลังกาย อีกทั้งร่วมสนับสนุน ส่งเสริมด้านกีฬาในการทำกิจกรรมกับกลุ่มนักออกกำลังกายทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่ม สปอร์ตดริ้งค์ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเซกเม้นต์ 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มคลาสสิก คือสินค้าที่บรรจุขวดแก้ว ขนาดเล็ก เน้นเกลือแร่ ราคาไม่เกิน 15 บาท และ 2. กลุ่มโมเดิร์น คือกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากผู้เล่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยการทำการตลาดจากผู้เล่นรายใหม่ๆ โดยสินค้าที่บรรจุขวด PET ขนาดใหญ่ราคามากกว่า 15 บาท มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15% โดยทิปโก้ เวฟ ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 15-20 %
ท้ังนี้ สปอนเซอร์ ครองความเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 73% จากตลาดรวม อันดับสองได้แก่ เอ็มสปอต 7% ฮันเดรดพลัส 6.5% อควาเรียส 4.5% และซัลโว ของค่ายสิงห์รั้งอันดับที่ห้า ด้วยส่วนแบ่ง 2.74%
