Biznews

“ซีพีเมจิ” รีแบรนด์รอท่าตลาดโยเกิร์ตฟื้น

ทำตลาดมาอย่างยาวนานอีกหนึ่งบริษัทสำหรับ ซีพี-เมจิ ผู้ผลิต-จำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์รายใหญ่ของประเทศไทย ที่ถือกำเนิดจากการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กับ บริษัท เมจิ จำกัด ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ของประเทศญี่ปุ่น จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 รวมระยะกว่า 20 ปี

ล่าสุด ซีพี-เมจิ สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่ให้กับตลาดโยเกิร์ต ด้วยการทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาทรีแบรนด์ดิ้ง โยเกิร์ตเมจิ ครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ให้ทันสมัยและสร้างความแตกต่าง ให้ตรงใจผู้บริโภค ด้วยการปรับสูตรใหม่และแพ็กเกจจิ้งโฉมใหม่ ภายใต้เงินลงทุนอีก 400 ล้านบาทในสายการผลิตและบรรจุภัณฑ์ใหม่ ซึ่งนอกจากจะเน้นทำตลาดในประเทศแล้วยังเพื่อการส่งออกในอนาคตด้วย

สลิลรัตน์ พงษ์พานิช รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ซีพี-เมจิ มีสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตทุกรูปแบบ ทั้งแบบถ้วยและแบบพร้อมดื่ม และมีแบรนด์สินค้าทั้งกลุ่มสินค้าเมนสตรีม ได้แก่ โยเกิร์ตเมจิ และนมเปรี้ยวเมจิ ไพเก้น โปร 5 และ กลุ่มสินค้าพรีเมี่ยม ได้แก่ เมจิ บัลแกเรีย ทั้งโยเกิร์ตถ้วยและโยเกิร์ตพร้อมดื่ม โดยในปัจจุบันตลาดโยเกิร์ตแบบถ้วยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 4,300 ล้านบาท ซีพีเมจิมีส่วนแบ่ง 13% อยู่อันดับ 2 ของตลาดรวม

โดยภาพรวมที่ผ่านมา ตลาดเติบโตติดลบ เนื่องมาจากหลายปัจจัยทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการบริโภคที่ลดลง แต่สำหรับทางบริษัทฯ นั้น ยังถือว่าเติบโตเป็นบวกได้อยู่ จากการออกสินค้ารสชาติใหม่ในกลุ่มสินค้าโยเกิร์ตเมจิในปีที่ผ่านมา และในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้นำตลาดด้านนมสดพาสเจอร์ไรส์และโยเกิร์ต ได้เล็งเห็นความสำคัญที่จะต้องกระตุ้นตลาดให้กลับมาเติบโตและส่งเสริมให้ผู้บริโภคกลับมาบริโภคโยเกิร์ตให้มากขึ้น จึงได้ทำการพัฒนานวัตกรรมสินค้าโยเกิร์ตแบบถ้วยและมีแผนปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของโยเกิร์ตเมจิ เพื่อช่วยพลิกตลาดโยเกิร์ตให้กลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2562

ในปี 2561 ซีพี-เมจิ ยังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดีด้วยการบริโภคสินค้าที่อร่อย มีคุณภาพและมีประโยชน์ จึงทำการพลิกโฉม โยเกิร์ตแบบถ้วย ครั้งสำคัญในรอบ 10 ปี ด้วยการปรับส่วนประกอบทางการตลาดใหม่ทั้งหมด ทั้งปรับสูตรสินค้าใหม่ ปรับแพ็กเกจจิ้งใหม่ และปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ที่ต้องการให้เนื้อโยเกิร์ตมีความนุ่มแน่น ไม่เหลว และได้เคี้ยวชิ้นผลไม้ในทุกคำ และยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติก พร้อมปรับลดน้ำตาลน้อยลง ทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาท ชูจุดเด่นเนื้อโยเกิร์ตนุ่มใหม่ ผ่านเครื่องมือการสื่อสารแบบครบวงจร ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ผ่านช่องทาง Youtube Facebook Instagram และ twitter รวมถึงการจัดแคมเปญโฆษณาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างกระแสในโลกโซเชียล หวังสร้างการรับรู้ของแบรนด์ สร้างการทดลองสินค้าและสร้างยอดขายให้เติบโต 50% ภายในปี 2561

สำหรับการรีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่นี้ เริ่มจากต้องการตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความอร่อยจากเนื้อโยเกิร์ต และดีต่อสุขภาพ จึงทำการ พัฒนาสูตรสินค้า โยเกิร์ตใหม่ จนสามารถใช้ “ส้อม” ตักได้ ซึ่งเป็นความพิเศษใหม่เฉพาะของโยเกิร์ตเมจิ การเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งใหม่ ให้ทันสมัยสีสันสดใสโดดเด่นบนชั้นวาง พร้อมนวัตกรรมการพิมพ์แบบใหม่ที่ทำให้ภาพคมชัด ที่สำคัญ ฝาใหม่เปิดง่าย ไม่บาดมือ และ ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ให้เป็นแบรนด์โยเกิร์ตสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มชายหญิงอายุระหว่าง 15 – 29 ปี ที่เป็นตัวของตัวเอง มองหาความแปลกใหม่ ชอบความต่าง ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งเป็นหัวหอกในด้านการกระตุ้นยอดขาย เพื่อให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ที่สดใสจึงเลือก วี-วิโอเลต วอเทียร์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก ด้วยคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่เป็นตัวของตัวเอง สดใส มีความมั่นใจและความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบทั้งในการทำงานและการเรียน ที่สำคัญยังใส่ใจดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เสมอ

ทั้งนี้ ซีพีเมจิตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโต 8% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 8,200 ล้านบาท แบ่งเป็นพาสเจอไรซ์ 80% และโยเกิร์ต 20% ตั้งเป้า 3 ปีนับจากนี้เพิ่มสัดส่วนโยเกิร์ตเป็น 30% ของรายได้รวม

สำหรับ โยเกิร์ตเมจิใหม่ ออกวางตลาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2561 ถึง 5 รสชาติ ได้แก่ โยเกิร์ตรสออริจินัล, โยเกิร์ตผสมสตรอเบอร์รี, โยเกิร์ตผสมวุ้นมะพร้าว, โยเกิร์ตผสมผลไม้รวม และ โยเกิร์ตผสมมิกซ์เบอร์รี ในรูปแบบถ้วยขนาด 135 กรัม ราคา 14 บาท วางจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อชั้นนำทั่วประเทศ

Related Articles

Back to top button
X
%d bloggers like this: