จาก สโตรก สู่ สตรอง “มานิต อุดมคุณธรรม”
จากนายห้างโรบินสันสู่ดีเวลอปเปอร์ สวอนเลค เขาใหญ่
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า ชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งสามารถพลิกวิกฤตครั้งใหญ่ในชีวิตที่ไม่ใช่ธุรกิจร้อยล้านพันล้านแต่เป็นการต่อสู้และสามารถเอาชนะโรคที่มีชื่อว่า สโตรก หรือโรคหลอดสมองซึ่งเป็น 1 ใน 3 โรคร้ายแรงที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ โดยสถิติที่ผ่านมาเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด รองจากโรคมะเร็งและโรคหัวใจ เนื่องจากอาการของโรคเฉียบพลันส่งผลให้เป็นโรคอัมพฤกษ์หรืออัมพาตทันที
แน่นอนเรากำลังพูดถึง มานิต อุดมคุณธรรม อดีตขุนพลผู้สร้างตำนาน ’โรบินสัน’ ที่สั่นสะเทือนวงการค้าปลีกมาแล้วเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วก่อนขายหุ้นให้กับกลุ่มเซ็นทรัลรับช่วงบริหารต่อ ขณะที่ตัวเขาเองผันตัวไปทำธุรกิจอื่นๆ ในรูปแบบดีเวลลอปเปอร์ธุรกิจสังหาริมทรัพย์ โดยกว้านซื้อที่ดินทั้งในจังหวัดภูเก็ตสร้างเป็นโรงแรมภายใต้การบริหารงานของลูกสาวคนเล็ก รวมทั้ง ปัดฝุ่นที่ดินเขาใหญ่ด้วยจำนวนพื้นที่ 200 ไร่ จัดทำคอนโดมิเนียมระดับหรูพร้อมโรงแรมระดับ 5 ดาวภายใต้การบริหารของลูกสาวคนโต
ชีวิตของมานิตย์วันนี้ในวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึง 72 ปีในวันนี้ ใช้ชีวิตด้วยความเรียบง่ายอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอทำให้เขาดูกระฉับกระเฉงแตกต่างจากอายุจริง แต่กว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อเขาเกือบต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต
มานิตย์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่เขาสวมบทนักธุรกิจเต็มตัวนั้น ด้วยความที่เขาเป็นคนมุ่งมั่นในการทำงานและตั้งมั่นว่าทุกสนามเขาจะต้องเป็นฝ่ายกุมชัยชนะในทุกสนาม กลายเป็นการทำร้ายร่างกายในทางอ้อมนั่นคือ เขาสั่งสมความเครียดเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัวจนกระทั่งป่วยเป็นโรคฮิตที่มีชื่อว่า สโตรก ซึ่งถือว่าอันตรายระดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตคนไทยมานักต่อนัก
ด้วยความไม่ยอมแพ้ต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยมุ่งมั่นอดทด ไม่ยอมแพ้ ทำให้มานิตย์ฮึดสู้กับเจ้าโรคดังกล่าวจนสามารถเอาชนะและกลับมาเป็นคนปกติธรรมดาด้วยความเชื่อที่เขายึดถือว่า ทุกคน เหนื่อยกายได้ แต่อย่าเหนื่อยใจเป็นพอ เพราะใจจะเป็นตัวสั่งให้เราไปต่อ จนมายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้
ปัจจุบัน มานิตย์ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายปลดสูท ถอดเนคไท อยู่กับธรรมชาติที่เขารักบนพื้นที่ที่ใครๆก็ถวิลหาอยากไปใช้ชีวิตและสูดอโซนให้เต็มปอดอย่าง เขาใหญ่ ที่เขาเจียดเงินจากการขายกิจการต่างๆ มากมายบวกกับเงินสะสมเพื่อซื้อที่ดินจำนวน 200 ไร่ถือเป็นการรุกสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อีกบทธุรกิจของเขา โดย“ปัดฝุ่น” ที่ดินเก่าเก็บบนเขาใหญ่ มาพัฒนาโครงการ “สวอนแลค” (Swan Lake) คอนโดมิเนียมโลวไรซ์ โดยมอบให้ลูกสาวคนโต “รีน่า อุดมคุณธรรม” นั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ กุมทัพธุรกิจที่เกิดจากแรงบันดาลใจของผู้พ่อ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกุนซือ
ก่อนจะเข้ าถึงผลงานชิ้นใหม่ของมานิต ย้อนกลับไปเขาคือ 1 ใน 7 ผู้บริหารที่ร่วมก่อตั้งห้างสรรพสินค้า “โรบินสัน” สาขาแรกที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และโด่งดังมากที่สาขาราชดำริ ย่านไข่แดงธุรกิจ ที่ต้องต่อสู้กับทุนใหญ่ค้าปลีกห้อมล้อมในระยะประชิด ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เดอะมอลล์ และไทยไดมารู
ความสำเร็จของห้างโรบินสันในขณะนั้น เกิดจากแนวคิดทำตลาดแบบฉีกกฎ โดยเฉพาะที่เป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” คือการนำ “ลิฟท์แก้ว” เข้ามาใช้เป็นรายแรกๆ มีฟู้ดคอร์ทให้บริการ จนโรบินสันเติบโตถึง 20 สาขา กระทั่งร่วมทุนกับกลุ่มเซ็นทรัล ของตระกูลจิราธิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน
ไม่หยุดอยู่แค่นั้น “มานิต” ยังทำธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ภูเก็ต “บุราส่าหรี รีสอร์ท ภูเก็ต” อีกหนึ่งขาธุรกิจอสังหาฯ ประเภท โรงแรมซึ่งลูกสาวคนเล็กรับหน้าที่ดูแล
กับการมาลุยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่เขาใหญ่ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทในครั้งนี้ “มานิต” เล่าว่าไม่ได้ทำตามกระแสแต่ต้องจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจไปกับการทำงานให้ประสบความสำเร็จ เกิดความเครียดสูง ไม่มีเวลาพักผ่อน มีปัญหาสุขภาพ เหมือนกับเขาในช่วงที่ผ่านมา และสถานที่แห่งนี้จะเป็นเหมือนที่พักต่างอากาศ ที่ผ่อนคลายกาย ใจให้กลับไปต่อสู้กับงานในวันต่อไป เพราะเขาเชื่อว่า ธรรมชาติจะช่วยบำบัดความเครียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
10 กว่าปีก่อน มานิตย์ ลงมือสร้างฝันด้วยการคืนธรรมชาติสู่ธรรมชาติ ด้วยการลงมือขุดลอกดินสร้างฝายกึ่งกลางเขาสองลูก เพื่อกักเก็บน้ำ จาก 1 จุด ขยายเพิ่มกลายเป็น 7 จุด จนกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ในโครงการ รวมทั้งทยอยปลูกต้นไม้ ใหญ่น้อยจำนวนมาก เพื่อให้ความร่มรื่นกว่า 4 หมื่นต้น รวมเม็ดเงินที่ลงไปกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเขาย้ำว่าไม่มีนักธุรกิจคนไหนทำแบบนี้แน่นอนเพราะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย
แต่มันคุ้มสำหรับใจของผู้ชายที่ชื่อ “มานิต อุดมคุณธรรม”