จากดาวร่วงสู่ดิน “ฟ่าน ปิงปิง”

จากดาวร่วงสู่ดิน “ฟ่าน ปิงปิง”

โดย…ธนก บังผล

อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนที่หว่านเม็ดเงินไปมากกว่าแสนล้านบาทในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อก้าวขึ้นไปเทียบชั้น “ฮอลลีวู้ด” ได้สร้างดารานักแสดงให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หนึ่งในผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดย่อมไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก “ฟ่าน ปิงปิง”

เธอเป็นนักแสดงและนักร้องชาวจีน มีชื่อเล่นว่า ปิงปิง และ เป่าเปา เกิดวันที่ 16 กันยายน 1981

ความสวยของเธอนอกจากจะไร้ที่ติแล้ว ยังได้ทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องการศัลยกรรมใบหน้าโดยมีเธอเป็นต้นแบบ

สำหรับคนไทย “ฟ่าน ปิงปิง” คือ แบรนด์ แอมบาสเดอร์ “คิงพาวเวอร์” หลังเดินทางมาเปิดงานแกรนด์โอเพนนิ่ง “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” อาณาจักรช็อปปิ้ง ไลฟ์สไตล์ และบันเทิง ที่ยิ่งใหญ่ระดับเวิลด์คลาส เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวที่ลือกันว่าระดับ 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สื่อประเทศจีนได้เปิดเผยค่าจ้างของ “ฟ่าน ปิงปิง” ซึ่งอยู่ในระดับท็อปสตาร์ว่าเธอได้รับค่าตัวจากการแสดงภาพยนตร์ต่อ 1 เรื่องประมาณ 80 ล้านหยวน หรือ 398 ล้านบาท

เธอคือดาวจรัสแสงที่ร้อนแรงที่สุดแม้กระทั่ง Forbes เองก็ยังเคยจัดอันดับให้ ฟ่าน ปิงปิง ติด 1 ใน 5 นักแสดงหญิงที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก มีรายงานว่าการออกงานอีเว้นท์ของเธอในแต่ละครั้ง ผู้จัดงานต้องทุ่มค่าจ้างถึง 2.8 ล้านหยวน หรือประมาณ 14 ล้านบาทเลยทีเดียว

ปี ค.ศ. 2011 มีการจัดอันดับรายได้ของนักแสดงจีน (รวมทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ จีน, ไต้หวัน และฮ่องกง) ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี ปรากฏว่า ฟ่าน ปิงปิง เป็นผู้ทำรายได้เป็นอันดับที่ 1 ซึ่งในปี ค.ศ. 2010 เธอทำเงินไปได้ถึง 62.5 ล้านหยวน (ประมาณ 284 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นค่าตัวจากงานแสดง 6 ล้านหยวน, รายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้า 32.5 ล้านหยวน และค่าตัวในการออกงานอีเวนต์ต่าง ๆ อีก 24 ล้านหยวน

ในกลางปี ค.ศ. 2015 ฟ่าน ปิงปิง ได้เป็นนักแสดงหญิงที่ทำรายได้สูงสุดในโลกเป็นอันดับที่ 4 โดยทำรายได้ไปทั้งสิ้น 21 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 749 ล้านบาท) และนับเป็นนักแสดงหญิงเพียงคนเดียวที่มิใช่ชาวตะวันตกที่ติดอันดับ

แต่ถึงแม้จะได้ค่าตัวที่สูงลิบลิ่ว เมื่อต้องมาเจอกับกฎหมายที่เกี่ยวกับการจ่ายภาษีของประเทศจีนซึ่งต้องนำเข้ารัฐฝนจะนวนมหาศาลเช่นกัน ทำให้เธอถูกแฉจากผู้ที่ไม่เป็นมิตรว่าฟ่าน ปิงปิง ได้ทำสัญญา “หยิน-หยาง” ในการรับงาน โดยแบ่งค่าตัวอออกเป็นหลายๆก้อน แล้วรายงานรายได้เพียงบางส่วนเท่านั้นเพื่อปกปิดรายได้ที่แท้จริง

ข่าวนี้เป็นเรื่องใหญ่มากในประเทศจีน แม้กระทั่งสื่อไต้หวันอย่าง Taiwan News ก็ยังพาดหัวข่าวว่าอาชีพในวงการบันเทิงของฟ่าน ปิงปิง อาจถึงขั้น “ปิดฉาก” ลงแล้ว หลังจาก China Securities Journal ที่เป็นสื่อของรัฐบาล ได้ให้ข้อมูลว่าการหลบเลี่ยงภาษีอาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการกระทำความผิดอื่นๆ โดยตั้งข้อสงสัยว่าซุปตาร์สาวชาวแดนมังกรคนนี้อาจจะมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอื่น ๆ ซุกซ่อนอีก

“การใช้วิธีเซ็นสัญญาหยินหยาง เป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เธอต้องสงสัยว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินที่ผิดกฎหมาย และพฤติกรรมทุจริตอื่น ๆ ด้วย กรณีที่ร้ายแรงที่สุดเธออาจจะถูกลงโทษทางกฎหมาย” China Securities Journal บอก

ในขณะเดียวกับที่ทางรัฐบาลจีนก็หวังกวาดล้างการทุจริตในวงการบันเทิง เพื่อไม่ให้ผู้สร้างหนังและซีรีส์ไปทุ่มเงินให้กับดารามากเกินไป โดยได้ออกกฎให้บรรดาผู้สร้างซีรีส์สามารถจ่ายเงินให้กับนักแสดงได้ไม่เกินร้อยละ 40 ของทุนสร้างเท่านั้น ส่วนการสร้างภาพยนตร์สามารถจ่ายค่าตัวให้ดาราได้ร้อยละ 70

จึงเป็นที่มาของสัญญาแบบ “หยิน-หยาง” กล่าวคือ ดาราจะได้ค่าตัวอย่างเป็นทางการจำนวนหนึ่ง แต่จะมีการทำสัญญาแยกเพื่อจ่ายเงินกันอย่างเป็นส่วนตัวกันอีกก้อน โดยสื่อจีนก็ระบุว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในวงการบันเทิง ซึ่งนอกจากนั้น วงการกีฬาก็มีการใช้สัญญาลักษณะนี้จ่ายเงินให้กับนักฟุตบอลด้วย

กรณีของ ฟ่าน ปิงปิง สื่อจีนอ้างหลักฐานเป็นสัญญาที่ระบุว่า เธอได้รับค่าตัวจากงานแสดงหนังเรื่องหนึ่ง 10 ล้านหยวน แต่มีสัญญาการจ่ายเงินกันแบบเป็นส่วนตัวอีก 50 ล้านหยวน โดยไม่ได้เปิดเผยให้สาธารณะชนทราบ

เรื่องหนีภาษีของฟ่าน ปิงปิง จะไม่ได้รับการพูดถึงเลยหากอยู่ดีๆเธอไม่หายไป โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลที่เธอไม่ได้โพสต์อะไรมาแล้วนานกว่า 3 เดือน จนเป็นที่มาของข่าวลือว่าเธอถูกตรวจสอบกรณีสัญญาหยิน-หยาง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา China Securities Journal สื่อของรัฐบาลจีนได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกว่า ฟ่าน ปิงปิง ได้ถูกควบคุมตัวอยู่จริง ๆ และยืนยันว่าเธอ “อยู่ในการควบคุม และพร้อมจะรับผลการตัดสิน”

สื่อจีนหลายแห่งยังเผยอีกว่า ข้อหาหนีภาษีของฟ่าน ปิงปิง ทำให้เธอถูกขึ้นบัญชีดำ ห้ามออกนอกประเทศ ห้ามถ่ายงานตลอดระยะเวลา 3 ปี อีกทั้งเมื่อคิดคำนวนรายได้จากต้นปี-กลางปี 2018 ที่ผ่านมา ฟ่านปิงปิงจะต้องเสียภาษีทั้งหมดอีกกว่า 50 ล้านหยวน (243 ล้านบาท)

หากเธอต้องโดนลงโทษห้ามถ่ายงาน 3 ปี นั่นก็จะส่งผลกระทบต่อผลงานหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง 355 ที่ฟ่าน ปิงปิงจะได้ร่วมประชันฝีมือกับนักแสดงระดับโลก อาทิ Lupita Nyong’o , Penélope Cruz , Jessica Chastain , Marion Cotillard เป็นต้น นอกจากนี้งานที่เธอถ่ายทำค้างอยู่ทั้งหมดก็อาจจะต้องถูกยกเลิกไปด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับหนังที่ถ่ายทำไปแล้วอย่าง Unbreakable Spirit (2018) บทของฟ่าน ปิงปิง ก็ต้องถูกตัดออกทั้งหมด

หลังข่าวนี้ถูกแพร่สะพัด ปรากฏว่าสังคมจีนไม่ได้ให้ความเห็นใจกับฟ่าน ปิงปิง แต่อย่างใด เว็บไซต์ chinadaily ทำการเปิดเผยผลการวิจัยเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมของเหล่าบรรดาคนเด่นคนดังชาวจีน, ไต้หวัน และฮ่องกง ซึ่งจัดทำโดยนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง นอร์มอล (Beijing Normal University) และสถาบันวิจัยสังคมวิทยาเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางสังคมจีน (Chinese Academy of Social Sciences Corporate Social Responsibility Research Institute) อันเป็นองค์กรของรัฐ ซึ่งใช้ชื่อว่า “รายงานความรับผิดชอบต่อสังคมของดาราภาพยนตร์และโทรทัศน์จีน 2017-2018” ได้จัดอันดับดาราบนพื้นฐานหลักการ 3 ประการ คือ ผลงานภาพยนตร์และโทรทัศน์, กิจกรรมการกุศล และความประพฤติของแต่ละคน โดยมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน ซึ่งผลปรากฏว่า ฟ่าน ปิงปิง ติดอันดับสุดท้ายจากดาราทั้งหมด 100 คน

นอกจากนี้ รายงานจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชี้แจงว่า ขณะนี้สัญญาที่ คิง เพาเวอร์ จ้าง ฟ่าน ปิงปิง มาเป็นแบรนด์เแอมบาสเดอร์ได้สิ้นสุดไปแล้ว ซึ่งเป็นการหมดสัญญาก่อนที่ทาง ฟ่าน ปิงปิง จะมีข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น โดยรายละเอียดของสัญญาไม่สามารถเปิดเผยได้ ดังนั้นทางคิง เพาเวอร์ จึงไม่มีสัญญาใดๆ กับฟ่าน ปิงปิงแล้ว

กรณีของฟ่าน ปิงปิง อาจเป็นแค่กรณีแรกที่เชือดไก่ให้ลิงดู เพราะกล่าวกันว่าดาราจีนหลายคนก็ทำสัญญาหยิน-หยาง เช่นกัน เพียงแต่ที่ต้องเป็นเธอคนแรกที่โดนเรื่องหนีภาษี ก็เพราะเธอคือตัวท็อปของวงการมายาแดนมังกรที่มีทั้งคนรักและคนชัง

เรื่องจริงที่สุดที่ควรรู้คือ โทษของการ “เลี่ยงภาษี” ที่ประเทศจีนนั้นหนักหนาสาหัส จนอยากจะให้บังคับใช้กับอดีตนักการเมืองไทยบางคนเหลือเกิน